วันที่ 9 ธ.ค.65 เวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ประมาณ 300 คน รวมตัวกันที่บริเวณประตูทางเข้า-ออกวัดป้อมวิเชียรโชติการาม ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร อยู่ติดกับสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาครเพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหานายหน้าคนไทยซึ่งได้มีการเรียกเก็บเงินแรงงานเมียนมารายละกว่า 10,000 บาทแลกกับการได้เข้าทำงานในโรงงานผลิตปลากระป๋องส่งออกแห่งหนึ่งพื้นที่ อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งเวลาได้ล่วงเลยมากว่า 4 เดือนแล้วแต่แรงงานส่วนใหญ่ยังไม่ได้ถูกเรียกตัวเข้าทำงานแต่อย่างใด

จากการสอบถามนางน้ำค้าง (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ประสานงานกลุ่มแรงงานเมียนมาทราบว่า มีนายหน้าคนไทยทราบชื่อคือ นายตี๋ ได้มาติดต่อและเรียกเก็บเงินแรงงานเมียนมาจำนวน 400 คน คนละ 10,000 กว่าบาทเพื่อแลกกับการเข้าทำงานในโรงงานปลากระป๋องส่งออก โดยได้ดำเนินการเรื่องเอกสารและเรียกเก็บเงินแรงงานเมียนมา ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฏาคม 2565 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถนำแรงงานทั้งหมดเข้าทำงานตามที่ตกลงไว้ได้ ซึ่งแรงงานกลุ่มนี้เคยมาร้องเรียนกับหน่วยงานรัฐ 2-3 ครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า

ด้านเจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร ระบุนายตี๋เป็นนายหน้าที่จดทะเบียนในจังหวัดสมุทรปราการโดยที่ผ่านมาได้มีการประสานให้เร่งแก้ไขปัญหาเพื่อนำแรงงานทั้งหมดเข้าทำงานตามที่ตกลงกันมาไว้ ล่าสุดขณะเกิดเรื่องในวันนี้เจ้าหน้าที่ก็ได้โทรสอบถามไปยังนายตี๋ถึงความคืบหน้าเรื่องนี้โดยนายตี๋อ้างว่าได้ประชุมกับทางโรงงานผลิตปลากระป๋องดังกล่าวแล้วและภายในอาทิตย์หน้าจะนำแรงงานเมียนมาเข้าทำงานได้

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่จัดหางานโทรไปสอบถามยังโรงงานดังกล่าวกลับได้ข้อมูลว่าทางโรงงานยังไม่มีนโยบายรับแรงงานเพิ่มแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้โทรไปถามนายตี๋ถึงเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งได้คำตอบที่ต่างออกไป โดยนายตี๋ไม่ได้พูดถึงเรื่องการประชุมกับทางโรงงานบอกแต่เพียงว่าได้โทรคุยกับผู้บริหารโรงงานแล้ว

อย่างไรก็ตาม แรงงานส่วนใหญ่ที่มาร้องเรียนในวันนี้สามารถจะเปลี่ยนนายจ้างเพื่อไปทำงานกับโรงงานอื่นๆ ที่เปิดรับได้ โดยเจ้าหน้าที่จัดหางานจะอำนวยความสะดวกให้เพื่อบรรเทาปัญหาในเบื้องต้น แต่แรงงานทั้งหมดไม่ยอมที่จะเปลี่ยนนายจ้าง เนื่องจากได้จ่ายเงินให้กับนายตี๋ไปหมดแล้ว ซึ่งหากจะให้เปลี่ยนนายจ้างนั้นต้องให้นายตี๋นำเงินที่เรียกเก็บไปมาคืนทั้งหมดเพราะการจะไปทำงานที่ใหม่ก็ต้องเสียเงินค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินการอีกครั้ง

ทั้งนี้ ยังมีข้อมูลจากกลุ่มแรงงานเมียนมา ระบุว่า การจ่ายเงินให้นายตี๋ดำเนินการพาเข้าทำงานที่โรงงานปลากระป๋องดังกล่าว ไม่มีใบเสร็จหรือหลักฐานจากทางฝั่งของนายตี๋แต่อย่างใด มีเพียงรูปถ่ายที่นายตี๋ ได้มาตั้งโต๊ะเรียกเก็บเงินเท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้ประสานงานของแรงงานเมียนมากลุ่ม รวบรวมเอกสารของทุกๆ คนเพื่อตรวจสอบและหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป ซึ่งจะมีการนัดหมายตัวแทนของทุกฝ่ายเข้ามาเจรจาอีกครั้ง - 003