ผกก.สภ.ประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีหญิงเพื่อนบ้านแจ้งความเอาผิด เด็กนักเรียน อายุ 6 - 12 ขวบ 8 คนฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ พร้อมประสานหลายฝ่ายร่วมพูดคุยหาทางออกไม่ให้เกิดปัญหาบานปลาย แจงที่พนักงานออกหมายเรียกเพื่อไปพูดคุยไกล่เกลี่ยตามขั้นตอน
ความคืบหน้ากรณีที่พ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียน อายุตั้งแต่ 6 – 12 ปี ในหมู่บ้านโคกสำโรง ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังบุตรหลานอายุตั้งแต่ 6 – 12 ปี จำนวน 8 คน ถูกหญิงเพื่อนบ้าน อายุ 33 ปีแจ้งความเอาผิดฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ โดยกล่าวหาว่าเด็กทั้ง 8 คนได้แอบเข้าไปรื้อค้นเอกสาร ทั้งทำข้าวของในบ้านเสียหายและแอบกินกล้วยที่เก็บไว้ในครัว
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.65 ที่ผ่านมาก็มีหมายเรียกจาก สภ.ประโคนชัยส่งมาถึงเด็กทั้ง 8 คนให้ไปพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.ประโคนชัย ในวันที่ 4 ธ.ค.โดยในหมายเรียกดังกล่าวระบุว่าเด็กทั้ง 8 คนเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาฐาน "ร่วมกันบุกรุก และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์" ก็ทำให้ผู้ปกครองต่างตกใจและรีบเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก แต่กลับถูกคู่กรณีเรียกค่าเสียหายคนละ 3,000 บาทกับเด็กทั้ง 8 คนหากใครไม่จ่ายจะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีการพูดคุยต่อรองก็ลดให้เหลือคนละ 2,000 บาท ซึ่งผู้ปกครองเด็ก 4 คนจำใจยอมจ่าย เพราะกลัวว่าลูกจะมีคดีติดตัว เพราะตำรวจแจ้งว่าเป็นคดีอาญาต้องขึ้นโรงขึ้นศาล จึงยอมจ่ายตามที่เขาเรียก แต่ผู้ปกครองอีก 4 คนไม่ยอมจ่ายเพราะยืนยันว่าลูกไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ทั้งยังแจ้งความกลับคู่กรณีฐานแจ้งความเท็จด้วย จากกรณีดังกล่าวจึงอยากขอความเป็นธรรมและขอให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือด้วย
ล่าสุดวันนี้ (9 ธ.ค.65) พ.ต.อ.เจตน์สฤษฎิ์ แพ่งศรีสาร ผกก.สภ.ประโคนชัย ได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านโคกสำโรง สอบถามข้อมูลจากผู้ปกครองเด็กและชาวบ้าน เพื่อหาข้อเท็จจริงในเชิงลึกว่าทำไมถึงมีการแจ้งความเอาผิดเด็กทั้ง 8 คน เพราะเชื่อว่าลึกๆ น่าจะมีเรื่องอื่นมากกว่านี้ พร้อมกันนี้ยังจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ร่วมลงพื้นที่เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจและหาทางแก้ไขปัญหาไม่ให้เรื่องบานปลาย
โดย ผกก.สภ.ประโคนชัย ระบุว่า จากการลงพื้นที่สอบถามข้อมูลในเบื้องต้นก็น่าจะมีสาเหตุจากเรื่องอื่นที่ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน ของคนในหมู่บ้านด้วย แต่ที่เจ้าของบ้านไปแจ้งความเอาผิดว่าเด็กเข้าไปรื้อค้นเอกสารและทำให้ข้าวของในบ้านเสียหาย อาจจะเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งก็จะได้ประสานหลายฝ่ายมาร่วมพูดคุยหาทางออกร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายในหมู่บ้าน ส่วนเรื่องคดีที่มีการแจ้งความกันทาง ผกก.ก็จะเข้ามาดูแลคดีนี้ด้วยตัวเอง เชื่อว่าหากมีการพูดคุยทำความเข้าใจรู้ต้นตอของปัญหาที่แท้จริง ก็น่าจะพูดคุยไกล่เกลี่ยเพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้นได้
ส่วนเรื่องที่มีการออกหมายเรียกนั้นจากการสอบถามทางพนักงานสอบสวนแล้ว ก็บอกว่าเป็นเพียงการออกหมายเรียกเชิญผู้ปกครองให้ผู้เด็กมาพูดคุยไกล่เกลี่ยกันตามขั้นตอนเท่านั้น เพราะคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมีการพูดคุยกันเองที่บ้านแล้วเกิดการทะเลาะกัน ซึ่งก็เป็นการปฏิบัติตามกระบวนการในกรณีที่มีการแจ้งความร้องทุกข์ เบื้องต้นก็ต้องมีการเรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยไกล่เกลี่ยกันตามปกติ เมื่อพูดคุยไกล่เกลี่ยกันได้ก็สามารถยอมความกันได้
ทั้งนี้ จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาร่วมพูดคุยและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายขึ้นในหมู่บ้าน เพื่อให้ชาวบ้านสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี