ส.นักวิจัยฯนัด14ธ.ค.
บุกรัฐสภาจี้เร่งผ่านร่างพ.ร.บ.กัญชา
ขอนักการเมืองอย่านำมาใช้ทำลายกัน
นายกสมาคมนักวิจัยฯ ชี้ห่วงใยเยาวชน ควรเร่งออกกฎหมายควบคุมการใช้กัญชานัดรวมตัว 14 ธันวาคม จี้รัฐสภาผ่านร่าง พ.ร.บ.วอนนักการเมืองอย่านำมาใช้เป็นเครื่องมือทำลายกัน ขณะที่อธิบดีแพทย์แผนไทยฯพาตำรวจ ลุยตรวจถนนข้าวสารจับ 6 ร้าน ลักลอบ“ขายกัญชาหาบเร่-เปิดห้องปุ๊น” จับปรับ-ส่งฟ้องศาลแล้ว ตั้งวงเงินประกันคนละ1 หมื่น พร้อมเดินหน้าตรวจสอบเพิ่ม
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565 รศ.ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย กล่าวว่าจากกรณีที่มีข่าวเรื่องเด็กและเยาวชนใช้กัญชา ทำให้หลายฝ่ายรวมถึงนักการเมืองออกมาวิพากษ์วิจารณ์นั้นทางสมาคมฯก็ห่วงใยสังคมเด็ก และเยาวชนเช่นเดียวกันจึงเห็นสมควรว่าจะต้องมีกฎหมายหมายระดับพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ซึ่งก็คือ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ.ที่จะเสนอเข้าสู่การพิจารณา ของสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 14 ธันวาคม2565สมาคมนักวิจัยฯมีสมาชิกหลากหลายสาขาวิชาชีพ มีทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย เภสัชกร นักวิทยาศาสตร์ นักสังคมศาสตร์ฯลฯ
โดยได้มีการติดตามข้อมูลการวิจัยสมัยใหม่ให้ทันสมัย อย่างครอบคลุมทุกมิติตลอดเวลาจนตกผลึกกัญชา กัญชง ดังนั้น กัญชา กัญชงจึงไม่ควรอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ยาเสพติด เนื่องจากจะส่งผลให้ การวิจัย และพัฒนายามาใช้ประโยชน์ มีปัญหาและอุปสรรคมากมาย จำเป็นที่จะต้องมีกฎหมายควบคุมเฉพาะที่เหมาะสม กับกัญชา กัญชงซึ่งบางประเทศก็ใช้กฎหมายควบคุมเฉพาะ เช่น ประเทศแคนาดา ใช้Cannabis Act เช่นเดียว กับที่เรากำลังเสนอร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง อยู่ในขณะนี้ ซึ่งไม่ได้ขัดกับกฎหมายของอนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติดในไทย ค.ศ.1961 แก้ไขโดย พิธีสาร ค.ศ.1972 ซึ่งเป็นกฎหมายควบคุมยาเสพติด ระหว่างประเทศ
นายกสมาคมนักวิจัย กล่าวว่า การควบคุมทุกสรรพสิ่ง ในสังคมมนุษย์ สิ่งใดมีคุณสมบัติ ใกล้เคียงกับสิ่งใด ควรควบคุมในระดับเดียวกันเมื่องานวิจัยที่เชื่อถือได้ใหม่ๆออกมา พบว่ากัญชาติดได้ยากกว่าเหล้าและบุหรี่ ดังนั้นกฎหมายที่ออกมาควรมีการควบคุมกัญชาที่ไม่น้อยกว่าเหล้าและบุหรี่ การคิดเอาเองว่า เมื่อมีกฎหมายควบคุมกัญชาทั้งระบบ ออกมาแล้วจะสร้างปัญหามากกว่าเดิม เราต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อมูล ต้องไม่คิดเอาเอง ต้องไม่มีอคติกับกัญชา ต้องรู้ว่าปัญหาของยาเสพติดในกลุ่มเยาวชนคือยาบ้าและต้องอ่าน ร่างพ.ร.บ.ให้เข้าใจ จะรู้ว่าการมี พ.ร.บ.ไม่ใช่กัญชาเสรี ไม่มีการส่งเสริมให้ใช้ในเยาวชน มีการควบคุมในระดับเดียวกับ เหล้า บุหรี่ ซึ่งกัญชาติดยากกว่าด้วยซ้ำ
“สมาคมฯ จึงขอวิงวอนนักการเมือง อย่าเอากัญชามาเล่นการเมืองบ อย่าเหยียดคนที่สนับสนุน พ.ร.บ.กัญชา กัญชงว่าไม่ห่วงเยาวชน พวกเราเป็นครูบาอาจารย์ จิตวิญญาณของพวกเราก็เพื่อสร้างเยาวชน สร้างงานวิจัย ปิดทองหลังพระเพื่อบ้านเมืองดังนั้นขอย้ำว่ากัญชา กัญชง ต้องการพ.ร.บ.เฉพาะที่มีความสมดุลของการนำมาใช้ประโยชน์ ในทุกระดับ การควบคุมการใช้ในกลุ่มเปราะบาง การคุ้มครองผู้บริโภค และการโฆษณาชักจูง ให้ใช้ในทางที่ผิด
ขอย้ำว่าสิ่งที่เราคนไทยต้องรู้คือสังคมไทยมีภูมิปัญญาในการใช้กัญชาตั้งแต่บรรพบุรุษ ต้องศึกษาวิจัยต่อยอดสิ่งที่เรามีซึ่งการใช้ในวิถีชีวิตและความรู้และเข้าใจ คืองานวิจัยและเน้นหลักฐาน เชิงประจักษ์ที่ดีที่สุดที่จะนำไปขยายผลต่อยอดสร้างสุขภาพ สร้างเศรษฐกิจให้ประเทศชาติด้วยและในวันที่ 14 ธันวาคม นี้ พวกเราพร้อมด้วยตัวแทนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องบกับกัญชา กัญชง จะไปแสดงตนที่หน้ารัฐสภา”นายกสมาคมนักวิจัย ระบุ
ด้าน นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลา21.00น.ตนพร้อมด้วย พ.ต.ท.ศรายุทธ บุญธรรม รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม พ.ต.ท.อาทิตย์ พลังนา สารวัตรสอบสวนและเจ้าหน้าที่กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต กรมวิชาการเกษตรและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ลงพื้นที่ถนนข้าวสาร เขตพระนคร เพื่อดำเนินการ ตรวจ สำรวจ พร้อมยึดอายัด ผู้กระทำความผิด หรือ ฝ่าฝืนกฏหมายประกาศกระทรวงสาธารณสุข สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565
นพ.ธงชัย กล่าวว่า การลงพื้นที่ถนนข้าวสารเมื่อวานนี้ เพื่อตรวจใบอนุญาตประกอบกิจการ/ร้านค้าต่างๆว่าจำหน่ายกัญชาได้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่เพื่อกำกับติดตามให้เป็นไปตามประกาศฯ สมุนไพรควบคุมกัญชา พบว่ามีกระทำผิด 6 ราย เป็นรายที่ 1-2 หาบเร่ แผงลอย ดำเนินการจำหน่าย หรือแปรรูปกัญชาเป็นพันลำและจำหน่ายช่อดอกโดยไม่ได้รับอนุญาต รายที่ 3-4 ดำเนินการใช้ใบอนุญาต ผิดสถานที่ที่ได้รับอนุญาต ต้องยึด อายัด สั่งปิด และส่งตัวพร้อมของกลางให้เจ้าพนักงานตำรวจ สน.ชนะสงคราม ดำเนินการ รายที่5 ผิดเงื่อนไข เพราะจัดให้มีสถานที่สูบในร้าน ต้องรอคำสั่งทางปกครอง พิจารณาแจ้งให้หยุดกิจการและหยุดดำเนินการ และ รายที่ 6 ผิดเงื่อนไขที่จัดห้องสูบในร้านและใบอนุญาตระบุที่ประกอบกิจการไม่ตรงกับสถานที่ที่จำหน่ายภายในโซน Plantopiaจึงสั่งปิดกิจการไปก่อน พร้อมเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบข้อมูลใบอนุญาตกับสถานที่แจ้งดำเนินการออกใบอนุญาตต่อไป
“หลังจากพบกรณีดังกล่าว พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมการแพทย์แผนไทยฯ เดินทางไป สน.ชนะสงคราม ร่วมจัดทำการบันทึก การจับกุมดำเนินคดี ตามขั้นตอนโดยเจ้าพนักงานตำรวจ โดยตั้งวงเงินประกันรายละ 10,000 บาท เพื่อนำส่งฟ้องศาลตามกำหนดวันศาลเปิดทำการ”นพ.ธงชัย กล่าว
อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯกล่าวว่า เมื่อเดือน พ.ย.และต้นเดือน ธ.ค. ทางกรมได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตาม กำชับ สื่อสาร สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนผู้ประกอบการ ร้านค้า สถานบันเทิง ในการใช้กัญชาอย่างถูกต้อง บริเวณถนนข้าวสาร และบริเวณซอยทองหล่อ ถนนสุขุมวิท จุดประสงค์หลักเพื่อต้องการให้ประชาชนผู้ประกอบกิจการเข้าใจในบทบาทของกัญชา เพื่อไม่ให้ได้รับอันตรายที่อาจเกิดจากการบริโภคกัญชา และการป้องกันการใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย พร้อมรณรงค์สร้างความเข้าใจต่อผู้ประกอบกิจการเกี่ยวกับการขออนุญาตจำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุม (กัญชา) เพื่อการค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ย้ำถึงการดำเนินการให้ถูกต้องภายใต้กฎหมาย ดังนั้นขอให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยกันดำเนินการให้ถูกต้องในทุกพื้นที่ และหากพบเห็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง จะเร่งดำเนินการป้องกัน ป้องปราม และจับกุม ตามลำดับต่อไป