เปิดสถิติ 10 อันดับภัยออนไลน์ รอรับเลยส่งเตือน 18 รูปแบบกลโกงถึงบ้าน

เปิดสถิติ 10 อันดับภัยออนไลน์ รอรับเลยส่งเตือน 18 รูปแบบกลโกงถึงบ้าน

วันพุธ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 13.59 น.

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวบรวมกลโกงออนไลน์ 18 รูปแบบ จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ เตรียมส่งถึงบ้านประชาชนเป้าหมาย 1.5 ล้านครัวเรือน สร้างการรู้เท่าทันมิจฉาชีพ ป้องกันตกเป็นเหยื่อ

14 ธันวาคม 2565 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และนายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รวบรวมกลโกงออนไลน์ 18 รูปแบบ รวมทั้ง แนวทางป้องกัน เพื่อเป็นสื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ประชาชนได้รู้เท่าทันมิจฉาชีพ


ทั้งนี้ บริษัท ไปรษณีย์ไทยฯ จะส่งสื่อประชาสัมพันธ์ดังกล่าว นำร่อง 1.5 ล้านชุด ไปยังบ้านเรือนประชาชนทั่วประเทศ เน้นพื้นที่ที่ได้รับแจ้งความว่ามีการกระทำผิดบ่อย รวมถึงอำเภอเมือง หรือจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่น เพื่อให้รู้เท่าทันกลโกง ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ และจัดส่งอีก 5 แสนชุด ไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อให้ตำรวจใช้เป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชน

ผบ.ตร. กล่าวว่า ปัจจุบัน คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เฉลี่ยวันละ 800 คน เนื่องจาก คนร้ายมีการปรับเปลี่ยนวิธีกลโกงหลากหลายรูปแบบ โดย 3 อันดับแรก คือ การหลอกลวงซื้อขายสินค้า / หลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม และหลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึง 10 ธันวาคม 2565 ตำรวจได้รับการแจ้งความเกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์กว่า 140,000 คดี มูลค่าความเสียหายเกือบ 10 ล้านบาท โดยยืนยันว่า ตำรวจจะเร่งปราบปรามผู้กระทำผิด ทั้งในประเทศและนอกประเทศ รวมทั้ง ปรับแก้กฎหมายเพิ่มโทษผู้กระทำผิด แก้ปัญหาระยะยาว ควบคู่การสร้างความรู้ให้ประชาชน

สำหรับกลโกงที่มิจฉาชีพนิยมใช้ 18 รูปแบบ เช่น คอลเซ็นเตอร์ / หลอกขายสินค้าออนไลน์ / หลอกให้ลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ / ปลอมหรือแฮกบัญชี ไลน์ เฟซบุ๊ก แล้วหลอกยืมเงิน / หลอกให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมคอมพิวเตอร์ทางไกลเพื่อขโมยข้อมูล / ส่งคิวอาร์โค้ดหลอกให้โอนเงิน / หลอกให้ถ่ายภาพโป๊เปลือย / ข่าวปลอม เป็นต้น หากประชาชนถูกหลอกลวง สามารถแจ้งความได้ทาง www.thaipoliceonline.com นอกจากนี้ ยังสามารถปรึกษา หรือขอรับคำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง ได้ที่คอลเซ็นเตอร์ 1441 หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000

ทั้งนี้ ในงานได้เปิดสถิติของการหลอกลวงสูงสุด 10 อันดับแรกทางไซเบอร์พบว่า

1.หลอกลวงซื้อขายสินค้า จำนวน 47,864 ครั้ง คิดเป็น 32.78% ความเสียหาย 695,562,100 บาท

2.หลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม จำนวน 20,325 ครั้ง คิดเป็น 13.92% ความเสียหาย 2,297,494,979 บาท

3.หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน จำนวน 17,559 ครั้ง คิดเป็น 12.02% ความเสียหาย 742,731,024 บาท

4.หลอกให้ลงทุน (ที่ไม่เข้าลักษณะฉ้อโกง) จำนวน 13,572 ครั้ง คิดเป็น 9.29% ความเสียหาย 66,100,207,026 บาท

5.หลอกลวงทางโทรศัพท์เป็นขบวนการ (call center) จำนวน 11,178 ครั้ง คิดเป็น 7.65% ความเสียหาย 2,338,579,710 บาท

6.หลอกลวงซื้อขายสินค้า (เป็นขบวนการ) จำนวน 8,022 ครั้ง คิดเป็น 5.49% ความเสียหาย 54,309,000 บาท

7.หลอกเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน จำนวน 4,158 ครั้ง คิดเป็น 2.85% ความเสียหาย 166,253,946 บาท

8.หลอกให้โอนเงิน (ไม่เป็นขบวนการ) จำนวน 2,711 ครั้ง คิดเป็น 1.86% ความเสียหาย 17,926,215 บาท

9.หลอกให้รักแล้วลงทุน จำนวน 2,444 ครั้ง คิดเป็น 1.67% ความเสียหาย 1,063,173,413 บาท

10.เงินกู้ออนไลน์ ดอกเบี้ยเกินอัตรา จำนวน 1,996 ครั้ง คิดเป็น 1.37% ความเสียหาย 17,208,545 บาท

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top