ตำรวจภูธรภาค 1 ทลายรัง! บุกคอนโดบางบัวทอง ยึด ‘ซิมบ๊อกซ์ 32 ช่อง’ หลังแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหลอก รอง ผบก.สส.ภ.1

วันที่ 25 ตุลาคม 2568 พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 (ผบก.สส.ภ.1) พร้อมกำลังชุดสืบสวน ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นห้องพักที่ตำบลบางรักใหญ่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี

การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1 ได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัท AIS กล่าวหาว่า พ.ต.อ.ประธาน เปิดหมายเลขโทรศัพท์และเกี่ยวข้องกับแก๊งค้ายาเสพติดทางภาคใต้ โดยมีการพยายามหลอกให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบบัญชี แต่คนร้ายไหวตัวทันและวางสายไปเสียก่อน

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 1 ได้ตรวจสอบข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้โทรเข้ามา จนพบสัญญาณมาจากห้องพักที่คอนโดดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด (ซิมบ๊อกซ์) จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งสามารถใส่ซิมการ์ดได้ถึง 32 ช่อง, โมเด็มต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต, เครื่องสำรองไฟ และที่สำคัญคือ กล้องวงจรปิด จำนวน 1 ตัว สำหรับดูความเคลื่อนไหว

พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าห้องพักดังกล่าวมี น.ส.หน่อย อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว เป็นผู้เช่าไว้ได้ประมาณ 1 เดือน ซึ่งตำรวจเชื่อว่าผู้เช่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างแน่นอน

ผบก.สส.ภ.1 กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สั่งการให้กวาดล้างจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงประชาชน โดยเฉพาะหลังมีการปิดด่านชายแดนด้านประเทศกัมพูชา ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลบหนีและนำอุปกรณ์เข้ามาติดตั้งกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย

เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 1 ปทุมธานี ได้เข้าตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอ เพื่อเปรียบเทียบประวัติอาชญากร และจะออกหมายจับ น.ส.หน่อย ในข้อหา ‘ร่วมกันทำ มีใช้ นำเข้า นำออกหรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ’ และ ‘ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ’ ก่อนส่งมอบของกลางให้กับพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

////-026