19 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า อาสาสมัครแผนกบรรเทาสาธารณภัยสมาคมสุรินทร์นิวส์ แจ้งเข้ามาว่า เมื่อเวลาประมาณ 10:25 น. ได้รับแจ้งเหตุกระบะชนท้ายรถบรรทุกพ่วง มีผู้เสียชีวิตติดภายใน 2 ราย บริเวณ กม.9 ถนนสุรินทร์-สังขะ ขาเข้าตัวเมืองสุรินทร์ (ใกล้เคียงแยกเทนมีย์) ผู้สื่อข่าวจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมอาสาสมัคร ร่วมถึงอุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง

ที่เกิดเหตุพบรถพวกบรรทุกรถยี่ห้อ ISUZU จอดขวางถนนอยู่ ลักษณะกำลังจะเลี้ยวกลับรถ ด้านท้ายรถพวงพบรถกระบะยี่ห้อ ISUZU BK สีฟ้า  ซึ่งดัดแปลงเป็นรถขุดเจาะบาดาล สภาพห้องโดยสารถูกแรงกระแทกอัดก๊อปปี้ ระหว่าด้านหน้ารถ และน้ำหนักของอุปกรณ์ขุดเจาะบาดาล ที่กระบะบรรทุกมาท้ายรถ

ต่อมาทราบชชื่อของคนขับรถพวงคือนายเสมอ โพธิ์แก้ว อายุ 40 ปี เป็นชาว ม.8 ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ได้ให้ข้อมูลต่อผู้สื่อข่าวเพียงแค่ว่า ตนบรรทุกรถมาจากกรุงเทพฯ มาส่งที่ จ.สุรินทร์ แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุ ตนมองเห็นว่าด้านหน้ามีด่านตั้งอยู่ ตนก็เลยชะลอรถเพื่อจะเลี้ยวยูเทิร์น แล้วก็เกิดเหตุดังกล่าว ตนยังไม่ขอให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ขอรอคุยกับประกันก่อน

ส่วนทางด้านผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือนายคุณากร อายุ 16 ปี (คนขับ) และนายเพล จันทร์ศิริ อายุ 54 ปี ( ผู้โดยสารมาด้วย ) ทั้งคู่มีศักดิ์เป็นลุงกับหลานกัน โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 2 เป็นชาวบ้านตะเคียน ม.1 ต.อู่โลก อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ เมื่อทางญาติทราบข่าว ก็ได้รีบมายังที่เกิดเหตุ และให้ข้อมูลต่อผู้สื่อข่าวว่า ทั้งคู่ออกจากบ้านมาประมาณ 9 โมงกว่า เพื่อจะไปทำงานขุดเจาะบาดาลไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ และตนก็กำลังจะตามมาเช่นกัน ก่อนออกมาก็ปกติ ไม่ได้พูดอะไรที่เป็นลางสังหรณ์เลย และลุงกับหลานก็ช่วยกันเช็ครถก่อนออกมาทำงานทุกครั้ง รถก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย

ทางด้านนายฉลองกรุง สุวรรณบุตร หัวหน้าอาสาสมัครแผนกบรรเทาสาธารณภัยสมาคมสุรินทร์นิวส์ เล่าว่า เมื่ออาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุ สภาพที่เห็นคือ ผู้เสียชีวิตทั้งคนขับและผู้โดยสารถูกอัดก๊อปปี้ ในลักษณะที่ว่าชนท้ายรถบรรทุกอย่างแรง และน้ำหนักของอุปกรณ์ขุดเจาะบาดาลที่กระบะบรรทุกมานั้น มีน้ำหนักค่อนข้างมาก จึงทำให้โถมเข้ามาอัดที่ห้องโดยสารอีก คือโดนก๊อปปี้ทั้งด้านหน้า และด้านท้าย อีกอย่างที่พื้นถนนก็พบรอยเบรกเพียงนิดเดียวประมาณ 10 กว่าเมตร ลักษณะเบี่ยงจากเลนขวา มาเลนซ้าย เหมือนถูกตัดหน้ากะทันหัน และคล้ายว่าพยายามหักหลบแล้ว แต่หลับไม่พ้น 

ที่ตนตั้งข้อสังเกตุคือ จุดยูเทิร์นตรงนี้ จะกลับรถได้เพียงรถที่วิ่งขาออกจากตัวเมืองเท่านั้น ส่วนเลนที่เป็นขาเข้าตัวเมือง ไม่อนุญาตให้กลับรถ หลังจากนั้นที่อาสาสมัครแผนกบรรเทาสาธารณภัยสมาคมสุรินทร์นิวส์ ร่วมกับอาสาสมัครสมาคมวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ และกู้ภัยสุรินทร์ ก็ได้ใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่างงัดร่างผู้เสียชีวิตออกมา และประสานแพทย์เวรนิติเวชโรงพยาบาลสุรินทร์มาชันสูตร ร่วมกับพนักงานสืบสวนสอบสวน สภ.เทนมีย์ ก่อนจะส่งศพให้กับทางญาติเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อได้

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ประสานเต็นท์รถมือสองที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด และภาพจากกล้องวงจรปิดก็จับภาพขณะเกิดเหตุได้อย่างชัดเจน ซึ่งจากในคลิปจะเห็นได้ว่า รถพวงวิ่งมาแล้วชะลอกะทันหันเพื่อจะกลับรถ แต่แล้วกระบะที่วิ่งมาทางเลนขวาก็ได้เบรก และพยายามหักหลบไปทางเลนซ้ายแล้ว แต่ด้วยความกระชั้นชิดทำให้หลบไม่พ้น จึงทำให้เกิดเหตุสลดขึ้น.012