โฆษก ทร.เผย พบร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางเพิ่ม 3 ร่าง มีหลักฐานบ่งชี้เป็นทหารเรือ รอผลพิสูจน์เอกลักษณ์ คงเหลือผู้สูญหาย 5 นาย แจงสอบเหตุการอับปางยึดตามกระบวนการ พร้อมเคลื่อนย้ายร่างกำลังพล 10 นายไปประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพที่ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี

จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเรือหลวงสุโขทัย สังกัดกองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ ทัพเรือภาคที่ 1 ถูกคลื่นยักษ์ซัดอับปางกลางทะเลอ่าวไทย ห่างฝั่ง 19 ไมล์ทะเล ในพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อคืนวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมานั้น

ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ธันวาคม 2565 ที่ศูนย์ประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือหลวงสุโขทัย ท่าเรือประจวบคีรีขันธ์ ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 แถลงข่าวความคืบหน้าในการค้นหาผู้สูญหาย กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย หลังจากเมื่อช่วงเช้าพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย โดยเมื่อช่วงเช้านี้ พลฯ เดินเท้า ที่บนเกาะเสม็ด จ.ชุมพร ได้ตรวจพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่บนเกาะเสม็ด 1 นาย ลักษณะลอยขึ้นไปติดบนชายฝั่งที่เกาะ สวมชุดหมี ซึ่งเครื่องแบบบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลบนเรือหลวงสุโขทัย และในวันนี้จะมีการเคลื่อนร่างกำลังพลฯ 10 นายที่พิสูจน์อัตลักษณ์เสร็จสิ้นแล้วกลับไปยังสัตหีบ

ภายหลังจากการแถลงข่าวเสร็จสิ้น พลเรือโทพิชัย ได้รับรายงานทางโทรศัพท์ และได้มีการเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 09.45 น. ได้รับแจ้งว่ามีการพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 นาย บริเวณเกาะง่ามใหญ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ทำให้ยอดผู้สูญหายคงเหลือ 6 นาย

สำหรับรายชื่อกำลังพลที่เสียชีวิต สามารถยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว จำนวน 20 ประกอบด้วย 1.ว่าที่เรือเอก สามารถ แก้วผลึก 2.พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์ 3.พันจ่าเอก สมเกียรติ หมายชอบ 4.พันจ่าเอก อำนาจ พิมที 5.จ่าเอก จักร์พงศ์ พูลผล 6.จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์ 7.จ่าเอกชูชัย เชิดชิด 8.จ่าโทธวัชชัย สาพิราช 9.จ่าโท สหรัฐ อีสา 10.จ่าตรี สถาพร สมเหนือ 11.จ่าตรี นพณัฐ คำวงค์ 12.จ่าตรี ศุภกิจ ทิวาลัย

13.จ่าตรี ศราวุธ นาดี 14.จ่าตรี สิริธิติ งามทอง 15.พลทหาร อัครเดช โพธิ์บัติ 16.พลทหาร จิราวัฒน์ ธูปหอม 17.พลทหาร สิทธิพงษ์ หงส์ทอง 18.พลทหาร วรพงษ์ บุญละคร 19.พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี

20.พลทหาร จำลอง แสนแก

ขณะที่ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ จะมีการนำร่างที่พบ ที่ จ.ชุมพร เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 2 นาย โดยรถกู้ชีพฯ นำร่างผู้เสียชีวิตที่กู้ขึ้นมาได้จากบริเวณ เกาะง่ามใหญ่ และเกาะเสม็ด จำนวน 2 นาย เข้ามานำส่งยังศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล สภ.บางสะพาน ที่มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถานบางสะพาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่นิติเวช รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทำการชันสูตรและตรวจพิสูจน์ตามขั้นตอนต่อไป

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สนามบินอู่ตะเภา พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมกำลังพลกองทัพเรือ จากหน่วยต่างๆ ได้เดินทางไปร่วมรับร่างกำลังพลกองทัพเรือ 10 นาย ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ที่ได้เคลื่อนร่าง โดยเครื่องบินลำเลียงแบบ C-130 ของกองทัพอากาศ จาก กองบิน 5 อำเภอเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปยังสนามบินอู่ตะเภา ประกอบด้วย 1.จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์ 2.จ่าเอกชูชัย เชิดชิด 3.จ่าโท ธวัชชัย สาพิราช 4.จ่าโท สหรัฐ อีสา 5.จ่าตรี สถาพร สมเหนือ 6.จ่าตรี นพณัฐ คำวงค์ 7.จ่าตรี ศุภกิจ ทิวาลัย 8.จ่าตรี สิริธิติ งามทอง 9.พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี 10.พลทหาร จำลอง แสนแก โดยมีครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตร่วมในพิธี

จากนั้นได้มีการเคลื่อนศพไปยังฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีทหารกองเกียรติยศรับรถขบวนเคลื่อนย้ายร่าง ตลอดเส้นทางผ่านอย่างสมเกียรติ ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 10 นาย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยตั้งบำเพ็ญกุศล ฯ กิจการฌาปนสถานกองทัพเรือ สัตหีบ และในเวลา 17.00 น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพวงมาลาพระราชทาน วางหน้าหีบศพกำลังพลที่เสียชีวิตทั้ง 10 นาย

มีรายงานว่าวันนี้ได้มีการส่งร่างจ่าเอกชูชัย เชิดชิด หรือน้าชู พ่อครัวหรือสหโภชน์ของเรือรบหลวงสุโขทัย ที่พบร่างในเขตน่านน้ำ จ.ชุมพร ที่แฟนเพจเฟชบุ๊กชื่อ kritsaba Sripariyuth ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ขอแสดงความอาลัย แด่ “น้าชู”สหโพชน์ ที่แสนดีของกำลังพลสุโขทัย น้าชูมีหน้าที่ดูแลข้าวปลาอาหารให้ทุกคนประจำเรือโดยจะต้องตื่นก่อนนอนทีหลังอยู่ตลอดเวลาเพราะหน้าที่ของหัวหน้าคนครัวเป็นเช่นนั้น…แต่ถึงเป็นเช่นนั้นน้าชูก็ไม่เคยปริปากบ่น ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะการณ์ใดๆแม้ว่าได้น้าชูจะเมาเรือหนักขนาดไหนอาหารก็ยังพร้อมสำหรับทุกคนเสมอจนถึงวันแห่งความโศกเศร้า…น้าชูได้จากไปพร้อมกับเรือที่ตนเองรักจนวาระสุดท้าย…

ทางด้าน พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ในวันนี้กองทัพเรือ รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ยังคงดำเนินการเร่งค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลที่ประสบเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในพื้นที่ลาดตระเวนตามแผน ทั้งบนผิวน้ำ ใต้แนวน้ำและแนวชายฝั่งซึ่งในเวลา 08.20 น. ได้มีการตรวจพบร่างผู้เสียชีวิตอีกหนึ่งร่างบริเวณชายฝั่งของเกาะเสม็ด จังหวัดชุมพร เรือหลวงตาปี ได้ทำการเก็บกู้นำส่ง มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล โดยในเบื้องต้นมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า จากกรณีที่มีสื่อสังคมออนไลน์ นำเสนอข่าวและวิพากษ์วิจารณ์ ในประเด็นการตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ซึ่งในหลายประเด็นยังเป็นที่สงสัยของสังคม ถามว่า ทำไมกองทัพเรือจึงยังไม่ออกมาตอบโต้ โดยขอยืนยันว่าปัจจุบันกองทัพเรือ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ซึ่งในขณะนี้ คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ก็ได้เร่ง ดำเนินการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุ ซึ่งจะเป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอน โดยปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว และจะมีการสรุปผลนำเรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นตลอดจนเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ ทั้งนี้ กองทัพเรือขอขอบคุณ สื่อสังคมออนไลน์ที่ให้ความสนใจประเด็นต่างๆ ของกองทัพเรือ และขอยืนยันว่ากองทัพเรือจะดำเนินการอย่างเร่งด่วน

ในเวลาต่อมา พลเรือเอก ปกครอง เปิดเผยว่า ในวันนี้สามารถเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 นาย โดยทั้ง 3 ร่างมีหลักฐานบ่งชี้เป็นทหารเรือ ทำให้ในขณะนี้มีร่างที่รอ ผลพิสูจน์เอกลักษณ์เพื่อยืนยันตัว บุคคล 4 นาย (รวมเมื่อเช้า 1 นาย) คงเหลือผู้สูญหาย 5 นาย

สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (วันที่ 28 ธันวาคม 2565) เวลา 17.00 น. ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต จำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 24 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 20 นาย และมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์เอกลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 4 นาย คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 5 นาย