ปิดล้อมสยบคลั่ง‘เสี่ยไร่อ้อย’ตามหาคนรักเก่า กล่อม 7 ชม.บุกชาร์จระทึก!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 28 ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งจากนายปราโมทย์ อุ่นจิตสกุล นายกเทศบาลเมืองปากแพรก ว่า มีชายวัยกลางคนขับรถยนต์กระบะเข้ามาจอดภายในบริเวณหน้าบ้าน ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งนำกำลังมาตรวจสอบโดยด่วน

พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี , พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี , พ.ต.ท.วศิน พลายศิริ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี และ พ.ต.ท.กฤษกร อริยานนท์ รรท.รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการณ์สืบสวน ปจร.สภ.เมืองกาญจนบุรี , เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสายตรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวน (กก.สส.ภ.จว.) กาญจนบุรี ร่วม 30 นาย แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่เกรงว่าชายที่กำลังคลั่งอาจมีอาวุธปืน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจึงสวมเสื้อเกราะ พร้อมนำโล่กันกระสุน และนำอาวุธปืนไปครบมือ

เมื่อ ไปถึงพบรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า ติดฟิล์มสีดำทึบ จอดติดเครื่องยนต์เอาไว้ โดยมีชายวัยกลางคนนั่งอยู่ที่เบาะคนขับ มีพฤติกรรมคล้ายคนคลั่ง ได้เร่งเครื่องยนต์ส่งเสียงดังเป็นระยะๆ เจ้าหน้าที่พยายามตะโกนเรียกเพื่อเกลี้ยกล่อม แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยินยอม

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบทราบชื่อชายคนดังกล่าว คือ นายถวัลย์ เสี่ยเจ้าของไร่อ้อย อายุ 40 ปี อยู่หมู่ 8 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เมื่อทราบเจ้าหน้าที่จึงประสานไปหาแม่ ของนายถวัลย์ ให้เดินทางมาเกลี้ยกล่อมลูกชาย โดยแม่ของนายถวัลย์ ได้เดินทางมาพร้อมกับลูกสาวและน้องชายของนายถวัลย์ ซึ่งแม่ของนายถวัลย์ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นว่าลูกชายมีอาวุธปืนอยู่ 3 กระบอก 2 กระบอกตนได้เก็บเอาไว้ที่ตู้เซฟ ส่วนอีก 1 กระบอกเป็นอาวุธปืนลูกซองยาว แต่ไม่ทราบว่าลูกชายนำติดตัวมาด้วยหรือไม่

เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลในเบื้องต้น จึงจำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และตลอดเวลาแม่ รวมทั้งลูกสาวและน้องชาย ได้พยายามพูดจากล่อมนายถวัลย์ให้ออกมาจากรถ แต่นายถวัลย์ก็ไม่ยินยอมหรือพูดจาตอบโต้ เวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง จนกระทั่งตกดึก นายถวัลย์ได้ดับสลับกับติดเครื่องรถยนต์เป็นระยะๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นนายถวัลย์ จุดไฟแช็กเพื่อเสพยาบ้าเป็นระยะๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้พยายามอดทนรอให้นายถวัลย์ ออกมาจากรถด้วยตนเอง แต่ก็ไม่เป็นผล

จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.20 น.ของเช้าวันนี้ (29 ธ.ค.2565) เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจเข้าชาร์จจับกุมอย่างระทึก เนื่องจากนายถวัลย์ขัดขืน โดยภายในมือได้กำอาวุธมีดเอาไว้ 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงได้พยายามกดมือข้างดังกล่าวเอาไว้พร้อมกับพยายามนำเอากุญแจไปล็อกข้อมือ กว่าเจ้าหน้าที่จะคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ต้องใช้เวลานานกว่า 5 นาที เมื่อเคลียร์พื้นที่แล้วเสร็จเจ้าหน้าที่จึงนำตัวนาย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายใน 5 ข้อหา

จากการสอบสวนทราบว่านายถวัลย์ เป็นเจ้าของไร่อ้อยกว่า 300 ไร่ ทำให้ฐานะทางบ้านค่อนข้างดี แต่นิสัยส่วนตัวเสพยาบ้ามานานหลายปี จนกลายเป็นคนคุ้มคลั่งและป่วยเป็นจิตเวช ที่ผ่านมาทางครอบครัวได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้นำตัวไปบำบัดที่สถานบำบัดผู้ติดยาเสพติดแล้วรวม 3 ครั้ง

ก่อนเกิดเหตุนั้นนายถวัลย์ เสพยาบ้าเข้าไปจำนวนหลายเม็ด จนอาการคลั่งกลับมากำเริบ จากนั้นได้ขับรถยนต์ออกมาจากบ้านเพื่อไปตามหาอดีตภรรยาที่เลิกรากันไปนานกว่า 10 ปีแล้ว โดยมีผู้พบเห็นนายถวัลย์ ขับรถยนต์วนเวียนไปมาที่หน้าบ้านของนายกเทศบาลเมืองปากแพรก มาแล้ว 3 รอบ จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่นายประโมทย์ กำลังขับรถเข้าบ้านโดยมีภรรยามาเปิดประตูให้ หลังจากที่นายปราโมทย์ ขับรถไปจอดที่โรงจอดรถ แต่ยังไม่ได้ปิดประตู นายถวัลย์จึงขับรถยนต์ติดตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว เมื่อนายปราโมทย์ และภรรยาเห็นจึงรีบเข้าบ้านแล้วล็อกประตูเอาไว้ จากนั้นจึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือดังกล่าว

-005