27 สิงหาคม 2568 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายฑรัท เหลืองสอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผบ.ร.29/ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง ผบ.ร.29/รอง ผบก.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.มานิต นาโควงศ์ ผกก.ตชด.13(ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) ร่วมวางแผนสกัดกัดกั้นขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย เนื่องจากหลายวันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน จึงเชื่อว่าจะมีการลักลอบเข้ามาอีกอย่างแน่นอน
จึงสั่งการให้นายวัลลภ จินดา ปลัดอำเภอ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่ 9 และชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.135 เจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี ออกลาดตระเวนไปตามถนนทางหลวงสาย 323
จนกระทั่งเวลา 02.30 น.เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 2 คัน ขับตามกันมาจากทางด้าน อ.สังขละบุรี มุ่งหน้าอำเภอเมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่ปรากฏว่าคนขับไม่ยอมและได้เร่งเครื่องหลบหนีการตรวจค้นมุ่งหน้าไปตามถนนสาย 323 อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จนกระทั่งไปถึงพื้นที่บ้านหินแหลม หมู่ 5 ต.ท่าขนุน คนขับเห็นท่าไม่รอดจึงเลี้ยวรถเข้าไปภายในซอยเปลี่ยว แล้วจอดรถทิ้งเอาไว้จากนั้นได้อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่พยายามวิ่งไล่ติดตามแต่ไม่ทัน ทำให้คนขับรถทั้ง 2 คันหลบหนีไปได้
จากการตรวจสอบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน 6 ขร 5023 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน บว 9167 กาญจนบุรี ที่คนขับจอดทิ้งเอาไว้ ผลปรากฎพบแรงงานต่างด่าวชาวเมียนมานั่งแออัดมาเต็มห้องโดยสารบางส่วนนอนหลบซ่อนตัวอยู่ที่กระบะท้ายโดยใช้แสลนปิดบังเอาไว้ รวม จำนวน 38 ราย เป็นชาย 25 ราย หญิง 13 ราย หลังจากจับกุมตัวเอาไว้ได้เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ทองผาภูมิ ขณะนี่อยู่ระหว่างการสอบสวน
เบื้องต้นกลุ่มแรงงานให้การผ่านล่ามแปลว่า ทั้งหมดหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนด้านอำเภอสังขละบุรี การเดินทางใช้เวลานาน 3-4 วันมีทั้งขึ้นรถและลงเรือ โดยแรงงานที่ถูกจับกุมตัวได้ต้องการกระจายไปทำงานพื้นที่จังหวัดชั้นในของไทย เมื่อไปถึงที่หมายจะต้องจ่ายเงินให้กับนายหน้าคนละ 8,000–10,000 บาท ระหว่างเดินทางก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน ซึ่งหลังจากทำการสอบปากคำแล้วเสร็จแรงงานทั้ง 38 ราย จะต้องถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และจะได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับเพื่อติดตามจับกุมตัวคนขับที่หลบหนีไปได้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี