“ชัยวัฒน์” ให้ ปากคำ ตร.ปปป.ปม อธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับเงินลูกน้อง
วันที่ 4 มกราคม 2566 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี เข้าให้ปากคำกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการประพฤติผิดมิชอบ หรือ บก. ปปป. เพื่อให้ปากคำ กรณีที่เป็นคนยื่นข้อมูลหลักฐานให้ บก. ปปป.ตรวจสอบ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช ที่เรียกรับเงิน และมีความผิดในฐาน ตามมาตรา 149 "เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ" และ 157 “ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” โดยการตรวจห้องห้อวทำงาน พบเงินสด ประมาณ 4ล้าน 9 แสนบาท ซึ่งนายรัชฎา ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยวางเงินสดจำนวน 4 แสนบาท เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ทั้งนี้ มีนายคณนาถ คะชะนา ตัวแทนสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) และเป็นอดีตปลัดอำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้นำช่อดอกไม้มามอบเป็นกำลังใจให้กับนายชัยวัฒน์ที่ต่อต้านกับการทุจริตคอรัปชั่นในภาครัฐ ด้วย
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อเช้านี้ตนได้นำเอกสารข้อมูล เข้าไปให้ปากคำและรายละเอียดกับกรรมการของกระทรวงทรัพยากร ฯ ก่อนที่จะเดินทางมายัง บก.ปปป. ให้ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับรายชื่อบุคคลที่ปรากฎบนซองเงินว่าเป็นใครบ้าง อยู่ส่วนไหนบ้าง และเชื่อมั่นในหลักฐานของ ปปป.และ ป.ป.ช. ที่เข้าไปตรวจค้น และมีการถ่ายคลิปไว้อย่างชัดเจนและเผยแพร่ต่อสังคม และยืนยันไม่เป็นการกลั่นแกล้ง และไม่คิดว่าจะมีการล้มคดี เพราะสังคมเห็นพฤติกรรมหมดแล้ว
ส่วนข้อมูลที่ตนได้รับการร้องเรียนมา ได้รับรู้มาตั้งแต่ตนเองกลับเข้ามารับตำแหน่ง เมื่อ 3 ตุลาคม ว่ามีการมีการรังแกเจ้าหน้าที่ ขั้นผู้น้อย มาโดยตลอด ต้องจ่ายเงินรายเดือน การเก็บเปอร์เซนต์ และผลของการเก็บเงินดังกล่าว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับความเดือดร้อน จึงเข้าไปพูดคุยกับนายรัชฎา เมื่อปลายเดือนตุลาที่ผ่านมา ซึ่งตนเองพยายามติดต่อผ่านหน้าห้อง ถึง 2 ครั้ง จนได้เข้ามาคุย ตอนนั้นตนเองก็บอกว่า “ ขอ อย่าเก็บเลย” และชี้แจงปัญหาของลูกน้องชั้นผู้น้อยที่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมา มันมีความเดือดร้อน มันไม่ไหวหรอก ถ้าเก็บขนาดนี้ พวกเขาจะทำงานกันอย่างไร เมื่อก่อนมันไม่ เคยทำกันอย่างนี้ ซึ่งตอนนั้น อธิบดีตอบกลับมาว่า ไม่ยอม ยังยืนยันให้จ่าย” นายชัยวัฒน์จึงพูดทิ้งท้ายไว้ว่า “สุดท้ายผมต้องจ่ายใช่ไหม” ผมจึงนำข้อมูลส่งให้เจ้าหน้าที่นำไปสู่กระบวนการจับกุมในวันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา
และเมื่อ ผู้สื่อข่าว ถามว่า ก่อนหน้านี้เคยมีการจ่ายเงินแบบนี้ภายในองค์กรหรือไม่ นายชัยวัฒน์ บอกว่า การให้เป็นวัฒนธรรมของคนไทย ทั้งการให้ด้วยความเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ยอมรับว่ามี แต่วัฒนธรรมการเรียกเก็บแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อน ที่เรียกเก็บทุกเม็ดทุกขั้นแบบนี้มาก่อน ส่วนใครจะจ่ายหรือไม่จ่าย ผมไม่รู้เห็น แต่ตั้งแต่ผมทำงานมาผมก็ไม่เคยต้องจ่ายหรือเรียกเก็บใครมาก่อน และหลังจากที่เรื่องดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้น ก็มีหลายส่วนที่เข้ามาให้กำลังใจ และดีใจ ขอบคุณที่ทำเพื่อพวกเขาและจะตอบแทนในการช่วยรักษาป่าไม้ และก็มีบางส่วนที่เป็นกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ได้มีการข่มขู่ผ่านแชทไลน์ ซึ่งตนเองไม่ได้สนใจและไม่ได้กลัวอะไร
ส่วนประเด็นที่ว่า นายชัยวัฒน์ และนายรัชฎา เป็น คุณพี่รุ่นน้องในมหาวิทยาลัยเดียวกัน นั้น นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ไม่ได้สนว่าจะจบจากมหาวิทยาลัยเดียวกันหรือเป็นนาย แต่ถ้าใครทำผิดก็ต้องรับผิด และผมยึดการพิทักษ์ป่าเป็นหลัก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี