ทยอยให้ปากคำปปป.
ปม‘อธิบดีอุทยานฯ’รีดสินบนลูกน้อง
เรียกสอบกลุ่มมีชื่อบนซอง11-12ม.ค.
คาดสรุปสำนวนส่งปปช.กลางเดือนนี้
เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี ทยอยเข้าให้ปากคำ พนักงานสอบสวน บก.ปปป.ปม “อธิบดีกรมอุทยานฯ” เรียกรับสินบน ด้าน ผบก.ปปป.ระบุรายชื่อบนซองเงินของกลางมี 21 ซอง ทราบชื่อแล้ว 14 คน เป็นระดับหัวหน้าที่อ้างว่า ถูกเรียกเก็บเงินโดยไม่สมัครใจเผยออกหมายเรียกแล้ว 6 คน ให้มาให้ปากคำวันที่ 11 ม.ค.และจะออกหมายเรียกเพิ่มอีก 8 คน ให้มาในวันที่ 12 ม.ค.คาดสรุปสำนวน ส่ง ป.ป.ช.ได้กลางเดือนนี้
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566 เวลา 10.00 น.ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ชั้น 16 อาคารพิทักษ์สันติ บช.ก. กลุ่มเจ้าหน้าที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี ทยอยเดินทาง เข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เพื่อให้ปากคำ จากรณีที่ ถูกนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรียกรับเงินโยกย้ายตำแหน่ง
สำหรับกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาวันนี้ อยู่ในระดับหัวหน้าหน่วย และเจ้าหน้าที่ ซึ่งทั้งหมด เป็นในกลุ่ม 19 คน ซึ่ง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี นำข้อมูลมาให้เจ้าหน้าที่ ปปป. เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกมี 13 คน ที่นำเงิน จำนวน 98,000 บาท ไปให้นายรัชฎา , กลุ่มที่ 2 มี 6 คน คือ พยานที่ได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน จากการเรียกรับเงินรับเงินนายรัชฎา
สำหรับเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี ที่เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนมีทั้งหมด 19 คน โดยเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่าน มามีเข้ามาให้ปากคำแล้ว 2 คน คือ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 และ เจ้าหน้าที่ที่เคยไปให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช., วันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา มีพยานเข้ามาให้ข้อมูล 1 คน
ส่วนวันนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่มาให้ข้อมูล 14 คน ยังเหลืออีก 2 คน ที่ติดราชการไม่สามารถเดินทางมาให้ปากคำในวันนี้ได้ โดยขอเลื่อนเข้าให้ปากคำเป็นวันที่ 10 มกราคมนี้
นอกจากนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ปรากฏรายชื่อบนซองเงินของกลาง จำนวน 8 หน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานมา เข้าให้ปากคำ เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับที่ไปที่มาของซองเงินดังกล่าว ในวันที่ 11-12 มกราคมนี้
ทางด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) เปิดเผย ว่าหลังพนักงานสอบสวนดำเนินการสอบปากคำพยานในกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี สังกัดนายชัยวัฒน์ จากการสอบปากคำทุกคนให้การเป็นประโยชน์และเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่าถูกบังคับ โดยส่วนใหญ่ไม่ยินยอมและไม่สมัครใจ แต่สาเหตุที่ยินยอมเพราะเกรงกลัวอำนาจจึงยอมทำตามข้อเรียกร้องของนายรัชฎา
ส่วนรายชื่อที่ปรากฏในซองภายในห้องทำงาน จากการตรวจสอบ พบมี 21 ซอง ไม่ใช่ 13 ซอง สามารถตรวจสอบทราบบุคคลได้แล้ว 14 คน ซึ่งเป็นระดับหัวหน้าของหน่วยงานนั้นๆ ที่กล่าวอ้าวว่า ถูกเรียกเก็บเงิน ล่าสุดได้ออกหมายเรียกแล้ว 6 คนให้มาให้ปากคำ วันที่ 11 มกราคม และ จะออกหมายเรียกเพิ่มเติมอีก 8 คน ให้มาในวันที่ 12 มกราคม เวลา 10.00 น. ซึ่งมีบางส่วนยินยอมจะเข้ามาให้ปากคำในฐานะพยาน ส่วนใครจะมาไม่มาพบพนักงานสอบสวนก็เป็นสิทธิของพยาน แต่ในทางคดีอนาคตพยานก็จะถูก ป.ป.ช.เรียกสอบปากคำในภายหลังเพิ่มเติมเช่นกัน
สำหรับการสอบเส้นทางการเงิน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ เบื้องต้นยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงปลายทางของเงินที่ถูกเรียกเก็บยังไม่ถึงบุคคลอื่น แต่ยืนยันว่าหากเชื่อมโยงถึงใคร จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นเดียวกัน เบื้องต้น ในชั้นพนักงานสอบสวน นายรัชฎา ยังปฎิเสธ ที่จะให้ปากคำแต่ขอให้ในชั้นศาลเท่านั้น
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังได้ชี้แจงกรณีที่มีการกระแสข่าว หลักจากที่นายรัชฎาได้รับการประกันตัว ว่าเข้าไปยุ่งเหยิงข่มขู่กับพยานหลักฐานยืนยันว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบยังไม่พบว่ามีการไปยุ่งเหยิงหรือข่มขู่พยานแต่อย่างใด และ กลางเดือนมกราคม2566 คาดว่า พนักงานสอบสวน ปปป. จะส่งสำนวนไปที่ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาชี้มูล พร้อมกับ ส่งตัว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ผู้ถูกกล่าวหา ให้ ป.ป.ช ในคราวเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พยานรายหนึ่งเปิดเผยภายหลังการเข้าให้ข้อมูลในครั้งนี้ โดยยอมรับว่า อาจมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานของตนเองในอนาคต แต่เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ จำเป็นต้องออกมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพราะที่ผ่านมา มีปัญหาในเรื่องของการถูกตัดงบประมาณการดูแลป่าและสัตว์ป่า ขณะที่ในส่วนของการทำงานมีความยากลำบากมากขึ้น ขอให้ประชาชนเข้าใจว่า คดีความที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับบุคลากรและหน่วยงาน จึงอยากให้สังคมเข้าใจการทำงานของบุคลากรกรมอุทยานฯ เพราะที่ผ่านมา หลายคนมีปัญหาเรื่องหนี้สิน เนื่องจากงบประมาณการดูแลสัตว์ป่าถูกตัดออกไปมากถึง 70% ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้า ต้องกู้หนี้ยืมสิน เพื่อนำเงินมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่และดูแลลูกน้อง ส่วนรายละเอียดของการให้ปากคำ ไม่สามารถเปิดเผยได้ ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี