วันที่ 9 มกราคม 2566 จากกรณีพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ขยายผลสืบสวนจากมูลฐานความผิดเกี่ยวกับขบวนการฟอกเงิน ยาเสพติด การพนันออนไลน์ ปรากฏว่ามีหนึ่งในผู้ต้องหารายสำคัญที่ดีเอสไอจับกุมไป ได้มีพฤติการณ์การโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส จำนวนหลายสิบล้านบาท จึงเป็นเหตุให้ดีเอสไอดำเนินการออกหมายเรียกให้นายพันธ์ธวัช เข้าให้ปากคำในสถานะพยานในวันที่ 13 ม.ค.นี้ เพื่อชี้แจงถึงการรับเงินก้อนดังกล่าว รวมถึงระหว่างสัปดาห์ต้นเดือนมกราคมนี้ ยังมีพยานอีก 7 รายที่จะต้องเข้าให้การในฐานะพยานเช่นเดียวกัน ตามที่มีการรายงานข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด คณะทำงานศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า สำหรับพยาน 7 รายที่ดีเอสไอออกหมายเรียกให้เข้าให้ปากคำในฐานะพยานเช่นเดียวกับนายพันธ์ธวัชนั้น เนื่องมาจาก 1 ใน 7 รายนี้ เป็นหัวหน้าระดับสูงของหัวโจกรายสำคัญในขบวนการฟอกเงินที่ดีเอสไอจับกุมไปได้ ซึ่งหัวหน้าระดับสูงรายนี้ มีพยานหลักฐานอันเชื่อได้ว่ามีหน้าที่บงการให้ขบวนการฟอกเงิน โอนเงินเข้าบัญชีของนายพันธ์ธวัช
อย่างไรก็ตาม ตนได้รับรายงานว่าทางพยานรายนี้น่าจะมีการเลื่อนนัดหมาย จากเดิมที่ต้องเข้าให้การในวันพรุ่งนี้ (10 ม.ค.) คาดว่าขอเลื่อนเป็นระหว่างวันที่ 11-12 ม.ค.แทน ซึ่งในวันสอบปากคำ คณะทำงานก็จะสอบถามในประเด็นความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับขบวนการฟอกเงิน เพราะร่องรอยที่พนักงานสอบสวนพบนั้น เป็นร่องรอยของการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลรายนี้กับขบวนการฟอกเงินที่ดีเอสไอจับกุมไปก่อนหน้า และพบว่าเป็นการติดต่อสื่อสารยิงระยะเวลาหลายปี นอกจากนี้ ในบรรดาพยาน 7 ราย บุคคลนี้ไม่ใช่หัวหน้าระดับสูงของขบวนการฟอกเงินเพียงคนเดียว แต่มีอีกหลายราย แต่เพียงแค่คณะทำงานต้องสอบปากคำรายนี้ก่อน
คณะทำงานศูนย์คดียาเสพติด เผยอีกว่า ในวันนี้คณะทำงานยังได้ออกหมายเรียกในสถานะพยานเพิ่มเติมอีก 4 ราย เพื่อมาสอบข้อเท็จจริงว่าฟังขึ้นหรือไม่ โดยหมายเรียกเพิ่มเติมนี้มีสาเหตุมาจากการขยายผล อย่างไรก็ตาม ทั้งหมด 4 รายนี้จะทยอยเข้าให้การภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งทั้งหมดมีบทบาทเป็นชุดม้า พนักงานบัญชีม้า สำหรับคดีนี้ได้มีการออกหมายเรียกรวมทั้งสิ้น 65 ราย แต่ในจำนวนนี้มีพยานสำคัญเพียง 7 ราย ซึ่งมีบทบาทเป็นหัวหน้าระดับสูงของขบวนการฟอกเงิน ตามที่อธิบดีดีเอสไอได้เรียนแจ้งแก่สาธารณะ
ขณะที่นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในเส้นทางการเงินที่คณะทำงานรวบรวมพยานหลักฐานและขยายผลมาได้ต่อเนื่องนั้น พบว่ามีหลายกลุ่มทุนที่โอนเงินเข้าบัญชีนายพันธ์ธวัช ซึ่งมาจากหลากหลายทาง มิใช่เพียงยอดตัวเลข 42 ล้านบาทเท่านั้น คาดว่ากลุ่มทุนเหล่านี้เล็งเห็นว่าธุรกิจกองสลากพลัสเป็นการดำเนินกิจการที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงเข้ามาลงทุนตรงนี้ แต่อย่างไรก็ตามกรมสอบสวนคดีพิเศษเราให้ความเป็นธรรมกับพยานทุกราย ขอเพียงแค่ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นที่พนักงานสอบสวนสอบถามให้ได้เพียงเท่านั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ปคบ.ฟันสลากออนไลน์ ดำเนินคดี‘นอท กองสลากพลัส’ผิด พ.ร.บ.ขายตรง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี