"ทวี สอดส่อง"ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ร่วมพิธีฉลองวิหารพ่อท่านเขื่อน-ทอดผ้าป่าวัดโบราณสถิตย์ แลกเปลี่ยนความเห็นกลุ่มมวลชน-มอบนโยบายคณะประชาชนอาสาแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกระดับการแก้ปัญหายาเสพติด

27 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาเป็นประธานพิธีฉลองวิหารพ่อท่านเขื่อนและทอดผ้าป่าวัดโบราณสถิตย์ ซึ่งเป็นที่สักการะและยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนไทยพุทธในพื้นที่ โดยมี พระธรรมวัชรจริยาจารย์ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ณ วัดโบราณสถิตย์ หมุ่ 2 ตำบลสุไหงปาดี อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส

ผู้สื่อข่าวรายง่นในเวลาเพิ่มเติมว่า ขณะที่ช่วงบ่าย ในเวลา 13.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม มีกำหนดการพบปะแลกเปลี่ยนความเห็นกับ คณะประชาชนอาสาแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดสตูล จังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส จาก 60 ตำบล ของกระทรวงยุติธรรม และกลุ่มมวลชน จำนวน 500 คน มาร่วมเวทีแสดงความคิดเห็น ที่หอประชุมโรงเรียนบูกิ๊ประชาอุปถัมภ์ ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส

สำหรับในเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีการขับเคลื่อนการทำงานของตำบลอาสาฯ อย่างเต็มรูปแบบใน 60 ตำบล ของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตัวแทนของตำบลอาสา จะได้นำประสบการที่ได้รับมาถ่ายทอดให้กับผู้ที่อาสาเข้ามาเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดภาคประชาชนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พันตํารวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ว่า ปัญหายาเสพติดยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในจังหวัดชายแดนใต้ สำหรับข้อมูลผู้ต้องราชทัณฑ์ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 มาจากคดียาเสพติด นอกจากนี้ยังพบว่า นักโทษที่ติดยาเสพติดส่วนใหญ่เรียนต่ำกว่าการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งการศึกษาเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากจะแก้ปัญหายาเสพติด ต้องเริ่มจากการให้คนมีการศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ อย่างน้อย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมาตรา 42 พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ฯ สั่งให้เรือนจำจัดการศึกษาแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพราะหากไม่มีการศึกษาก็ไม่มีอาชีพ และทำให้คนเหล่านั้นหันมาเสพยาเสพติด นอกจากนี้ ยาเสพติดยังทำลายร่างกาย สติปัญญา ทรัพย์สิน เกียรติยศ และศาสนาอีกด้วย 

พันตํารวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ยกระดับและขับเคลื่อน​ในระหว่างที่เข้ามารับใช้ประชาชน คือ 1) การแก้ปัญหายาเสพติด 2) ขจัดผู้มีอิทธิพล และ 3) เอาชนะความยากจน โดยกระทรวงยุติธรรมพร้อมที่จะสนับสนุน ส่งเสริม เพื่อให้เกิดชุมชนเข้มแข็ง ลดยาเสพติดในชุมชน และทำให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ยาเสพติดนั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก  อยากให้ชุมชนมาร่วมหาแนวทางการแก้ปัญหาเสพติดด้วยกัน และพร้อมรับมือในการต่อสู้กับยาเสพติดในชุมชน เพราะนอกจากยาเสพติดจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิตของผู้เสพแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว คนใกล้ชิด และชุมชนอีกด้วย เพราะปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสังคมเป็นอย่างมาก 

ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมได้เดินหน้าแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายรัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งการแก้ไขปัญหายาเสพติดในขณะนี้ นอกเหนือจากการจับกุม คือ การบำบัดและดูแล เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน รวมถึงจำเป็นต้องมีการจัดหางานฝึกทักษะวิชาชีพให้แก่ผู้ที่ผ่านการบำบัดยาเสพติด โดยเน้นการเข้าถึงชุมชน หมู่บ้าน ดูแลกลุ่มเสี่ยงยาเสพติด โดยใช้ความเข้าใจในสภาพพื้นที่สังคมพหุวัฒนธรรม