“ดีเอสไอ” เร่งตรวจสอบ “รถเสี่ยเบนท์ลี่ย์” ส่อเลี่ยงภาษีศุลกากร อยู่ในกลุ่มรถหรูหรือไม่ - แย้มตามหาคนให้ข่าวอดีตบิ๊กดีเอสไอช่วยคดีหากกระทบภาพลักษณ์องค์กรจ่อเอาผิด

วันที่ 13 มกราคม 2566 จากกรณีมีการแอบอ้างอดีตอธิบดีหรืออธิบดี DSI พา"เสี่ยเบนท์ลี่ย์”หลบจากสน.หลังเกิดเหตุเฉี่ยวชน  ต่อมาปรากฏข่าวว่ารถหรูดังกล่าวอยู่ในบัญชีคดีรถหรูเลี่ยงภาษีนำเข้านั้น นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า จะให้มีการตรวจสอบ ข้อมูลรถคันดังกล่าวโดยเร็ว ว่าเป็นความจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามรถอาจจะมีลักษณะภายนอกและเลขทะเบียนที่เหมือนกันได้ ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ดังนั้นจะต้องไปตรวจสอบดูเลขตัวถังของรถยนต์ ว่าเป็นรถยนต์ที่อยู่ในบัญชีของคดีพิเศษจริงหรือไม่

ส่วนกรณีที่มีการอ้างชื่อของอดีตอธิบดีหรืออธิบดี DSI นั้น นายไตรยฤทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ให้ข้อมูลซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบว่าใครให้ข้อมูล แหล่งข่าวมาจากไหนและใครเป็นคนพูด ทั้งนี้ตามหลักของกฎหมายจะต้องพิจารณาอยู่ที่เจตนาที่ ซึ่งก็ต้องดูว่าเขาตั้งใจที่จะเผยแพร่สู่สาธารณะชนหรือให้สังคมรับรู้หรือเปล่า หรือเป็นการพูดให้เพื่อนๆคนรู้จักได้ยินว่าเขาเป็นใครเพื่อการันตีตัวเองในการขอความร่วมมือ ทั้งนี้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับบุคคลดังกล่าวด้วย ตนเข้าใจว่าเป็นการพูดปุถุชนก็คุยกันแบบนี้

" กรณีทั่วไปถ้าท่านเป็นข้าราชการระดับสูงก็ยังสามารถใส่ในนามบัตรได้ว่าเป็นอดีตปลัดกระทรวงหรืออดีตอธิบดี แต่ทั้งนี้ต้องดูการนำไปใช้ ซึ่งหากใครมีคลิปกล่าวอ้าง หรือพูดข่มขู่ผู้เสียหายจริงก็ให้นำมาให้ DSI ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพื่อให้มีการตรวจสอบว่าคนดีเอสไอมีการพูดโดยเอาภาพลักษณ์ขององค์กรเข้าไปเกี่ยวข้องจริง หรือหากเป็นบุคคลนอกราชการก็จะไม่สามารถตั้งคณะกรรมการสอบได้แต่ก็ต้องไปดูว่าตามกระบวนการกฎหมายจะแจ้งความดำเนินคดีได้หรือไม่ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายกฎหมายของ DSI พิจารณาแล้วอาจเห็นว่าเกิดผลกระทบต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือกระทำผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองเราก็ไม่สามารถละเว้นได้จะต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อไป

สำหรับความคืบหน้ากรณีการสอบสวนดำเนินคดีอาญากับขบวนการหลีกเลี่ยงภาษีอากรรถยนต์ราคาแพง ที่มีการส่งออกจากสหราชอาณาจักร เข้ามายังประเทศไทยนั้น อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า มีรถจำนวน 1,020 คัน ว่าดีเอสไอ ดำเนินการสอบสวนรถยนต์หรูเลี่ยงภาษีที่เป็นคดีพิเศษ ทั้งหมด 1,428 คัน ตั้งแต่ปี 2558 โดยตนมารับตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ เมื่อ ต.ค.2564 พร้อมรับนโยบาย รมว.ยุติธรรม เร่งรัดดำเนินคดีดังกล่าวให้แล้วเสร็จก่อนหมดอายุความ ซึ่งขณะนี้คดีสอบสวนเสร็จสิ้นและส่งสำนวนให้พนักงานอัยการแล้ว 167 สำนวนคดี ผู้ต้องหาเป็นนิติบุคคล 113 ราย และเป็นบุคคลธรรมดา 1 ราย รวม 114 ราย