อธิบดี DSI โต้กลับยันตำรวจ191 เจ้าภาพเข้าค้นบ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรู ลั่นไม่ใช่หน้าห้องตัวเอง พร้อม แย้มอยากรู้เงินสินบนปล่อยตัวชาวจีน 11 คนอยู่ที่ไหน
จากกรณีปรากฏข่าวว่าเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.65 เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับตำรวจ191 เข้าตรวจค้นบ้านพักอดีตกงสุลนาอูรู ก่อนเรียกรับผลประโยชน์จีนเทารวมเกือบ 10 ล้านบาท พร้อมปล่อยตัวผู้ต้องหาหมายแดงประเทศจีน11คน หลบหนีออกนอกประเทศไปได้นั้น
วันที่ 17 ม.ค.66 ที่สำนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยว่าเมื่อวานนี้(16 ม.ค.) ตนได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้ว ส่วนพิจารณาโทษขั้นต่อไปกำลังอยู่ในช่วงการพิจารณา อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติงานในครั้งนี้ไม่ได้มีคำสั่งจากดีเอสไอ และตนทราบว่าเป็นงานของทางตำรวจ 191 ที่เป็นผู้ทำการขอหมายค้น และดีเอสไอชุดนี้เข้าไปร่วมสนับสนุน
"เพราะตามแผนการทำงานของดีเอสไอ จะมีขั้นตอนการทำงานระบุไว้ชัดเจนเมื่อมีการทำงานนอกหน่วย ต้องมีการเบิกอุปกรณ์ เช่น รถ อาวุธปืน คอมพิวเตอร์ หรืออุป กรณ์อื่นๆ แต่ส่วนใหญ่หน่วยนี้จะเป็นหน่วยการข่าวกรอง ซึ่งจะมีการขอทำงานนอกสถานที่เป็นรอบๆ รอบละ 1 เดือน ยืนยันว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจในการค้นในครั้งนี้ แต่เป็นหน้าที่ตำรวจ 191"
เมื่อถามว่าจะมีการพิจารณาให้เจ้าหน้าที่ที่กระทำผิด ออกจากราชการเลยหรือไม่ นายไตรยฤทธิ์ กล่าวว่า กำลังพิจารณาพร้อมกับทางตำรวจอยู่ ซึ่งกรณีนี้มีโทษอยู่ 2 อย่าง คือโทษทางอาญา กับ โทษทางวินัย หากทางวินัยจะดำเนินการทันที ซึ่งทางด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และปลัดกระทรวงยุติธรรมก็ได้มีการกำชับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ยังไม่ได้มีการให้ออกจากราชการไว้ก่อนแต่อย่างใด
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ว่าการเข้าค้นบ้านพักกงสุลใหญ่เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.65 ว่าเจ้าภาพคือดีเอสไอและหน้าห้องของอธิบดีดีเอสไอได้มีการประสานไปยังรองผู้การฯ 191 ก่อนประสานไปยังรอง ผบช.น.นั้น อธิบดีดีเอสไอ ยืนยันว่าหน้าห้องของตนไม่มีการประสานไปยังรองผู้การฯ 191 แน่นอน ส่วนจะเป็นใครประสานไปนั้น ตนไม่ทราบ
อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอเคยได้หนังสือขอให้เข้าตรวจสอบ เพราะเคยเป็นบ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรูและเดิมทีสถานที่ดังกล่าวเคยเป็นอาคารที่ใช้เป็นที่ทำการของสถานกงสุลนาอูรู ต่อมามีการเลิกเช่าไปแล้ว และจากนั้นมีคนจีนมาเช่าแทน แต่ยังพบว่ามีคนบางกลุ่มยังคงใช้ชื่อสถานกงสุล และใช้ในลักษณะแสวงหาผลประโยชน์ในการทำผิดกฏหมายเกี่ยวกับการทำเอกสารวีซ่าปลอมเพื่อพาคนเข้าประเทศ
ส่วนในกรณีที่ปรากฏข่าวว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอและตำรวจ 191 เรียกรับเงินจำนวนหลายล้านบาทเพื่อปล่อยตัวผู้ต้องหาชาวจีน 11 รายนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนไม่ทราบและก็อยากทราบเช่นกันว่าขณะนี้เงินก้อนนี้ไปอยู่ที่ไหนอย่างไร