วันที่ 24 มกราคม 2566 จากกรณี กลุ่มนักเรียนชาย รวม 5 คน ร่วมกระทำชำเรา นักเรียนหญิง ในป่าอ้อยห่างจากโรงเรียน 1 กม เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 และเมื่อวันที่ 13 มกราคม ผู้ปกครองนักเรียนหญิงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สถานีตำรวจตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร และได้พาลูกสาวเดินทางร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาหงสกุล
โดยเหตุ ผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงอายุ 14 ปี ไปโรงเรียนตามปกติ แต่ช่วงพักกลางวัน มีเพื่อนรุ่นพี่ เป็นหญิง ชั้น ม. 3 ได้ชักชวนให้ซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เอาไปให้กลุ่มเพื่อนนักเรียนชาย ม.2 จำนวน 5 คน ที่ไม่เข้าชั้นเรียนและไปหลบซ่อนอยู่ในป่าหลังโรงเรียน เมื่อไปถึงรุ่นพี่ผู้หญิงได้แยกตัวออกไปนั่งอยู่ริมน้ำ ห่างจุดเกิดเหตุ 100 เมตร ส่วนลูกสาวถูกกลุ่มนักเรียนชายดึงตัวไว้ ก่อนผลักลงพื้น มี 2 คน จับแขน และขา เพื่อให้เด็กชายอีก 3 คน ล่วงละเมิดทางเพศ แถมถ่ายคลิปไว้ จนกระทั่งวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมามีการเผยแพร่คลิปดังกล่าว ผู้ปกครอง ไปสอบถามลูกสาวจึงทราบความจริง จึงพาลูกสาวไปพบครู และแจ้งความที่ สภ.หนองโสน
ล่าสุด เวลา 13.00 นางสาวปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ พร้อมคณะลงพื้นที่ ที่สถานีตำรวจภูธรหนองโสน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร เพื่อติดตามผลดำเนินคดี กับ นักเรียนชาย ทั้ง 5 ราย โดย มี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม รองผู้บังคับการจังหวัดพิษณุโลก ในฐานะโฆษก สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พ.ต.อ สุเมธ เงินบำรุง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองโสน และ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจิตร เข้าร่วม การหารือ ถึงแนวทางการทำคดี และ การช่วยเหลือสภาพจิตใจ ของ เด็กนักเรียน ทั้งผู้เสียหาย และ ผู้กระทำผิด
นางสาวปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ระบุว่า การลงพื้นที่บูรณาการหลายภาคส่วน ทั้งทางตำรวจ กระทรวงการศึกษา กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งปัญหาเร่งด่วน คือ การทำให้คลิป ที่มีการแพร่กระจาย ไปทั่วในระบบโซเซียลออกไปจากระบบ และดำเนินการตามกกหมายหากมีข้อมูลของการเผยแพร่ คลิปสื่อลามก รวมถึง เข้าฟื้นฟูสภาพจิตใจ ทั้งผู้เสียหาย ที่เป็นเด็กนักเรียนหญิง รวมถึง เข้าเก็บข้อมูล ถึงสาเหตุของการกระทำพฤติกรรมของนักเรียนชายทั้ง 5 คน เร่งแก้ไข เพื่อให้คืนกลับสังคมอย่างเร่งด่วน รวมถึงการแก้ปัญหา ที่เรียนของผู้เสียหาย ให้กลับคืนสู่โรงเรียน
โดยสรุปการดำเนินการช่วยเหลือดังนี้ 1.ทีม ตร.ไซเบอร์ ติดตามลบคลิปในโซเชียลให้รวดเร็ว 2.สภ.หนองโสน สรุปการดำเนินคดีให้เป็นธรรมให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษตามกฎหมาย 3.กระทรวงศึกษาธิการให้เด็กนักเรียนหญิงเข้าเรียนต่อโรงเรียนเดิมตามความประสงค์ 4.พมจ.และบ้านพักเด็กฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เข้าดูแลฟื้นฟูสภาพจิตนักเรียนหญิงผู้เสียหาย และลงพื้นที่เยี่ยมบ้านนักเรียนชาย 5 คน ที่ก่อเหตุเพื่อปรับพฤติกรรม 5.มูลนิธิปวีณาฯ จะประสานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ให้ผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยา โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีนี้ร่วมกับทุกหน่วยงานอย่างใกล้ชิดต่อไป
พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม รองผู้บังคับการจังหวัดพิษณุโลก ในฐานะโฆษก สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ระบุว่า เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะการมีข้อมูลของคลิปอนาจาร อยู่ในครอบครอง หรือเผยแพร่ มีความผิด ตามกฎหมายอาญา ซึ่งขอให้ผู้ที่คลิปลบออก และห้ามเผยแพร่
ขณะที่ พ.ต.อ สุเมธ เงินบำรุง สุเมธ เงินบำรุง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองโสน ในส่วนคดี ทางพนักงานสอบสวนการแจ้งข้อหา นักเรียนชายทั้ง 5 คน ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งทางพนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐาน ส่งศาลเยาวชนจังหวัดพิจิตร เพื่อพิจารณาคดี ซึ่งหากมีความผิด ทั้งหมดจะส่งสถานพินิจดูแล ทั้ง 5 คนซึ่งเป็นเยาวชน
ส่วนนักเรียนหญิงที่มีข่าวเป็นนกต่อนั้น ต้องมีการสอบสวนเพิ่ม โดยละเอียดต่อหน้าสหวิชาชีพ ที่นัดสอบสวนที่สำนักงานอัยการจังหวัดพิจิตร ในวันที่ 25 มกราคมนี้ อีกครั้งแล้วจะดูว่ามีความเกี่ยวพันธ์ต่อคดีหรือไม่ และนักเรียนชายที่ถ่ายคลิป ใครเป็นผู้นำภาพเข้าไปเผยแพร่ในโซเชียล ก็จะถูกแจ้งข้อหานำเข้าข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สุดช็อก! นักเรียนหญิงม.2 ถูก 5 นร.ชายรุมโทรม เร่งสอบรุ่นพี่หญิงเอี่ยวเป็นนกต่อหรือไม่
แจ้งข้อกล่าวหา! 5นักเรียนชาย ก่อเหตุรุมโทรมนักเรียนหญิงในป่าอ้อย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี