'รมว.ยุติธรรม'นำทัพ 8 หน่วยงาน ผนึกกำลังผู้นำศาสนา-ประชาชน ประกาศ "'วาระควบคุมพืชกระท่อม'ใช้ในทางที่ผิด ในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยเร่งด่วน หวังสำเร็จเป็นรูปธรรมภายใน 120 วัน
วันที่ 14 มิถุนายน 2568 พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกิจกรรมรวมพลังมวลชนผู้นำศาสนา กลุ่มเด็ก และเยาวชน ร่วมประกาศเป้าหมายแนวทางการควบคุมการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิดด้วยพลังภาคประชาสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วย พันตำรวจโทวรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. นางสาวอารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการ ป.ป.ส พันตำรวจโทนริช สอนดิษฐ ผอ.ปปส.ภ. 9 ผู้แทนหน่วยงานรัฐ ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น เยาวชน จิตอาสา และภาคประชาสังคม เข้าร่วมกว่า 1,000 คน ณ ห้องประชุมน้ำพราว โรงแรม ซี.เอส ปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี
รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ปัญหาการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปัญหาที่ทุกภาคส่วนต้องการให้มีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน การดำเนินการในระยะ 120 วัน ซึ่งนอกจากจัดทำแผนแล้วยังต้องเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างชัดเจน หากไม่มีการขับเคลื่อนจริงจัง ย่อมไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อประชาชนและชุมชน ทั้งนี้ แม้การดำเนิน งานจะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดทางกฎหมายและจุดอ่อนในเชิงการบังคับใช้ แต่ทุกหน่วยต้องร่วมกันใช้กลไกและอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดผ่านการบูรณาการการทำงานอย่างเป็นระบบระหว่างภาครัฐ ผู้นำศาสนา และประชาชน โดยจะมีการนำจิตอาสาเข้ามามีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติงานในพื้นที่ 688 หมู่บ้าน ซึ่งอยู่ใน4จังหวัดชายแดนภาคใต้( ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส, สตูล) และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ( อ.จะนะ, นาทวี, เทพา, และสะบ้าย้อย) เพื่อควบคุมมิให้มีการจำหน่ายหรือใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด และจัดระเบียบการจำหน่ายและการค้าขายพืชกระท่อมในพื้นที่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
“การขับเคลื่อนปฏิบัติการเพื่อเกิดผลเป็นรูปธรรมและลดระดับปัญหาได้จริง ตามแนวทางการดำเนินงาน 10 ประการ ได้แก่ การกำหนดบทบาทหน้าที่อย่างชัดเจนในแต่ละหน่วยงาน การตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้โดยเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ การร่วมกำหนดเขตปลอดการขายพืชกระท่อม การจัดประชุมติดตามความคืบหน้าทุกเดือน การขยายบทบาทผู้นำศาสนา การเอ็กซเรย์ หมู่บ้านเป้าหมายเพื่อนำผู้เสพเข้าสู่การบำบัด การรณรงค์เชิงสัญลักษณ์อย่างกว้างขวาง การเสริมพลังจิตอาสาให้เป็นกลไกหลักในชุมชน การสื่อสารและประสานงานระหว่างฝ่ายอำนวยการ และการเก็บรวบรวมข้อมูลข่าวสารเพื่อใช้ในการปฏิบัติการเชิงรุก โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกภาคส่วนจะร่วมมือกันขับเคลื่อนเห็นผลอย่างแท้จริงในพื้นที่ได้ภายในระยะเวลา 120 วัน”รมว.ยุติธรรม กล่าว
ด้าน นายมูฮำมัดซูวรี สาแล นายกสมาคมสถาบันศึกษา จชต. และนายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ได้กล่าวถึงแนวทางการปฏิบัติของผู้นำศาสนาว่า พร้อมจะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ โดยจะให้ความรู้ในสถาบันการศึกษาทุกรูปแบบ รวมถึงนำวาระพืชกระท่อมเป็นหัวข้อก่อนการอ่านคุตบะห์ในวันศุกร์ และเป็นหัวข้อแทรกในการบรรยายธรรมของผู้นำศาสนา เพื่อให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่สะอาด ปราศจากสิ่งมึนเมา ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามตามหลักการศาสนาอิสลาม
นอกจากนี้ ยังมีเวทีเสวนา “การใช้พืชกระท่อมใน 5 จังหวัดชายแดนใต้ : ปัญหา และทางออกภายใต้ความร่วมมือภาครัฐและชุมชน” โดยนักวิชาการ ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่และผู้นำศาสนา ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ ตลอดจนการแถลงแผนและประกาศเจตนารมณ์จากหน่วยงานหลักในการควบคุมการใช้พืชกระท่อมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยหน่วยงานภาคีหลักในพื้นที่ต่างแสดงจุดยืนร่วมกันในการขับเคลื่อนปฏิบัติการควบคุมการใช้พืชกระท่อมอย่างเข้มข้น พร้อมประกาศความมุ่งมั่นที่จะผนึกกำลังทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่โดยเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี