ประหาร'สจ.วันชาติ' บุกยิง'ครูนงค์'ดับกลางงานศพปี'64 - ชดใช้เงิน 2.5 ล้าน

ประหาร'สจ.วันชาติ' บุกยิง'ครูนงค์'ดับกลางงานศพปี'64 - ชดใช้เงิน 2.5 ล้าน

วันอังคาร ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2566, 17.59 น.

ศาลสั่งประหารสถานเดียว "อดีต สจ.วันชาติ"บุกยิง"ครูนงค์"ผู้สมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรีดอนทราย จ.ราชบุรี กลางงานศพปี 2564 แถมให้ชดใช้เงิน ลูก แม่ สามีครูนงค์ อีกกว่า 2.5 ล้าน

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีฆ่าครูนงค์ หมายเลขดำ อ.1211/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา ครอบครัวผู้ถูกยิงเสียชีวิต และผู้ได้รับบาด ร่วมกันเป็นเป็นโจทก์ที่ 1 - 4 ยื่นฟ้อง นายวันชาติ เนียมรักษา อายุ 62 ปี อดีต สจ.ราชบุรี เขต 3 อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 371, 376 และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 ซึ่งคดีนี้โจทก์ร่วมขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ยด้วย


อัยการโจทก์ฟ้องสรุปความผิดว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2564 จำเลยกับพวกร่วมกันมีและพกอาวุธปืนไปบริเวณศาลาวัดท่ามะขาม ต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี และมีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ใช้อาวุธปืนยิง นางวราพร เนียมรักษา หรือ ครูนง ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรี ต.ดอนทราย ผู้ตาย จำนวนหลายนัด เป็นเหตุให้เสียชีวิต และใช้อาวุธปืนยิงประทุษร้ายผู้เสียหายอีก 3 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย เหตุเกิดช่วงค่ำในงานสวดศพ ภายในวัดท่ามะขาม หมู่ 7 ต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จำเลยให้การปฏิเสธโดยตลอด

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานโจทก์ และจำเลย ประกอบพยานบุคคลซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สืบสวนจากการตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายและโจทก์ร่วม โดยเตรียมการไว้ล่วงหน้าอันเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจริง ข้อต่อสู้จำเลยฟังไม่ขึ้น

ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้องอันเป็นความผิดหลายกรรม ซึ่งความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฐานพยายามฆ่าอื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฐานพยายามฆ่าอื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยพลาด และฐานยิงปืนฯ โดยใช่เหตุ อันเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทหนักสุด ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ให้ประหารชีวิต

ความผิดฐานมีอาวุธปืนทะเบียนผู้อื่นฯ จำคุก 2 ปี ฐานพกพาอาวุธไปในเมืองฯ ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ จำคุก 6 เดือน เมื่อลงโทษประหารชีวิตจำเลยในความผิดกระทงแรกแล้วก็ไม่อาจนำโทษจำคุกในความผิดกระทงอื่นมารวมได้อีก คงให้ประหารชีวิตจำเลยสถานเดียว และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 1 (บุตรผู้ตาย) เป็นเงิน 550,740 บาท ให้โจทก์ร่วมที่ 2 (ผู้บาดเจ็บ) จำนวน 732,500 บาท ให้โจทก์ร่วมที่ 3 (มารดาผู้ตาย) จำนวน 150,000 บาท และโจทก์ร่วมที่ 4 (สามีผู้ตาย) 1,080,000 บาท รวม 2,513,240 พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี นับตั้งแต่เกิดเหตุวันที่ 1 มี.ค.2564 จนกว่าจะชำระเสร็จ

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top