‘ศาลจังหวัดทองผาภูมิ’พิพากษา 2 ผู้ต้องหาแก๊งลอบขุดดินร่อนแร่ทองกลางป่ายอดเขา‘อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ’ คุก 5 ปี สารภาพลดเหลือ 3 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมชดใช้ 560,100 บาท
30 มิถุนายน 2568 นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข นักวิชาการป่าชำนาญการพิเศษ ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เปิดเผยว่า ตามที่เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดยุทธการปราบปรามกลุ่มบุคคลที่แอบลักลอบขุดดินเพื่อหาแร่ทองคำในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก ตรวจยึดพื้นที่บุกรุก 14-0-1 ไร่ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดในพื้นที่เกิดเหตุได้ จำนวน 2 คน เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมตรวจยึดของกลางในการกระทำความผิด จำนวน 12 รายการ
จากนั้นจัดทำบันทึกเรื่องราวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปิล๊อก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายใน 6 ข้อกล่าวหา ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2584 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และหลังจากนั้นได้มีการจับกลุ่มบุคคลที่ยังแอบลักลอบเข้าไปบุกรุกพื้นที่อีก 13 คดี ผู้กระทำความผิด 18 คน พร้อมของกลาง 123 รายการ
ต่อมาวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้มีคำพิพากษา คดีเกี่ยวกับการขุดแร่ทองคำ คดีแรก ตามคดีหมายเลขดำที่ สวอ5/2568 คดีหมายเลขแดงที่ สวอ 12/2568 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ โจทก์ และนายอาฉ่อง หรือบอล อายี นายอนุสรณ์หรือเบรก สุธาพจน์ จำเลยที่ 1-2 ตามลำดับ ในความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ ความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ และความผิดต่อพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิมีคำพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันเข้าไปครอบครองพื้นที่เกิดเหตุที่ถูกแผ้วถางซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำและพื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ มีเนื้อที่ 14 ไร่ 1 ตารางวา
ทั้งนี้ ถือว่าจำเลย ทั้งสองร่วมกันแผ้วถางป่าพื้นที่เกิดเหตุ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดฐานร่วมกันแผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น ฐานร่วมกันยึดถือครอบครองทำประโยชน์ในที่ดิน แผ้วถางหรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมสภาพแก่ป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ฐานร่วมกันยึดถือหรือครอบครองที่ดิน แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติไปจากเดิมในพื้นที่ลุ่มน้ำ ชั้นที่ 1 ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต
ฐานร่วมกันเก็บหา นำออกไปหรือกระทำด้วย ประการใด ๆ ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งดิน หิน กรวด ทราย แร่หรือทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานร่วมกันเข้าไปดำเนินกิจการใด ๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตตามฟ้อง สำหรับของกลางนั้น กระสอบเป้ 1 ใบ ของจำเลยที่ 1 หินแร่ 2 ก้อน กรรไกร 2 อัน คีม 1 อัน ไขควง 7 อัน สิ่ว 1 อัน ตะไบ 1 อัน มีดคัตเตอร์ 1 อัน ไฟฉาย 4 กระบอก มีดพก 1 เล่ม ไฟแช็ก 3 อัน ขวดแก้วแยกทอง 4 ขวด เทป 2 ม้วน ด่างทับทิม 1 ขวด กระเป๋ากระสอบ 2 ใบ และกระป๋อง 1 ใบ ของจำเลยที่ 2 เป็นทรัพย์ที่จำเลยทั้งสองใช้ และมีไว้เพื่อใช้เป็นสิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ในการกระทำความผิดและได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด และเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ได้มาจากการกระทำความผิด
โจทก์ได้ให้พนักงานปิดประกาศ ตามกฎหมายจนล่วงพ้นเวลา 30 วันแล้ว ไม่มีผู้ใดอ้างตนเป็นเจ้าของ จึงให้ริบตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 56 พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง, 72 ตรี วรรคหนึ่ง พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14, 31 วรรคสอง (3) พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19 (1) (2) (6), 41 วรรคสอง, 42 วรรคหนึ่ง, 44 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
การกระทำของจำเลยทั้งสอง เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันยึดถือหรือครอบครองที่ดิน แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติไปจากเดิมในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกคนละ 5 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา กรณีมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คนละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 3 ปี กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย 560,100 บาท แก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยให้ปรับเปลี่ยนลดลงหรือเพิ่มขึ้นได้ตามพระราชกฤษฎีกา ซึ่งตราขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7 วรรคสอง บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี แต่ต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 5 ต่อปี อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ขอประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มบุคคลที่แอบลักลอบเข้าไปบุกรุก แอบขุดดินในแปลงตรวจยึดในคดีดังกล่าว หากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมจะถูกลงโทษตามกฎหมายซึ่งมีความรุนแรง ถูกตัดสินจำคุกไม่รอลงอาญา หากพบการกระทำความผิดอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเฉียบขาดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี