กรุงเทพฯพบค่าฝุ่น PM2.5 มาแล้ว ผลกระทบต่อสุขภาพ 70 พื้นที่ จะยาวไปถึง3 กุมภาพันธ์นี้ ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุกทม.-ปริมณฑล-ภาคตะวันออก อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-8 องศา หลายภาคเริ่มมีฝนฟ้าคะนองแล้ว ส่วนภาคใต้ฝนถล่ม
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานคุณภาพอากาศ สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา ตรวจวัดได้ 57-97 มคก./ลบ.ม. ดังนี้ กรุงเทพเหนือ (บางซื่อ บางเขน ดอนเมือง) วัดได้ 61-76 มคก./ลบ.ม. (อยู่ในเกณท์เริ่มมีผลกระทบ),กรุงเทพตะวันออก (ประเวศ ลาดกระบัง หนองจอก) วัดได้ 60-97 มคก./ลบ.ม. (อยู่เกณฑ์เริ่มมีผลกระทบ), กรุงเทพกลาง (สัมพันธวงศ์ ดินแดง วังทองหลาง) วัดได้ 58-78 มคก./ลบ.ม. (อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบ), กรุงเทพใต้ (บางนา ปทุมวัน ยานนาวา) วัดได้ 67-95 มคก./ลบ.ม. (อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบ),กรุงธนเหนือ (ธนบุรี จอมทอง คลองสาน) วัดได้ 75-84 มคก./ลบ.ม. (อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบ),กรุงธนใต้ (หนองแขม บางบอน บางขุนเทียน) วัดได้ 74-91 มคก./ลบ.ม. (อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบ)
ทั้งนี้พบค่า PM 2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 70 พื้นที่
และคาดว่าอัตราการระบายอากาศในช่วงวันที่ 31 ม.ค.- 3 ก.พ.2566 จะไม่ดี เนื่องจากเพดานอากาศต่ำ เกิดสภาวะอากาศปิดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นช่วงที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง
ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง PM 2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สำหรับช่วงวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ 2566 คาดว่าอัตราการระบายอากาศจะดี อีกทั้งความกดอากาศสูงจากจีนจะออกมานอกชายฝั่งทำให้ทิศของลมหนาวนั้นเปลี่ยนจากตะวันออกเฉียงเหนือมาเป็นตะวันออก ส่งผลให้จะมีการเริ่มพัดพาฝุ่นควันจากกัมพูชาเข้าสู่ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคตะวันออก ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ปกติของการเปลี่ยนผ่านไปยังฤดูร้อน ลมใต้จะทวีกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ และวันนี้กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า
ช่วงวันที่ 1 - 4 ก.พ.2566 พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลควรเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นละออง เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่ง และปิด โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้เพื่อวางแผนการทำงาน การทำกิจกรรมโดยเฉพาะในพื้นที่ที่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ/มีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรลดระยะเวลา หรืองดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ในช่วงวันที่ 1 - 2 ก.พ. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น 3 – 8 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า กรมอุตุฯ เตือน กทม. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-8 องศา แถมมีฝนตก
ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 ก.พ.66 มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี