เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดหมายลักษณะอากาศใน 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่วันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ 2566 ดังนี้
บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ตลอดช่วง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า ในขณะที่ในช่วงวันที่ 2 - 7 ก.พ. 66 มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ประกอบกับมีลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนเคลื่อนผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางและลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ตลอดช่วง ประกอบกับในช่วงวันที่ 2 – 4 ก.พ. 66 มีหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณเกาะบอร์เนียว จะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลซียและภาคใต้ตอนล่างลงสู่ทะเลอันดามัน ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
ข้อควรระวัง -ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง
คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 2 – 3 ก.พ. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส
ในขณะที่ในช่วงวันที่ 3 - 7 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 – 12 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 2 – 3 ก.พ. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส
ในขณะที่ในช่วงวันที่ 2 - 5 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 6 - 7 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 35 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 – 16 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 1 – 3 ก.พ. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส
ในขณะที่ในช่วงวันที่ 3 - 7 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 1 – 3 ก.พ. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส
ในขณะที่ในช่วงวันที่ 2 - 7 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 2 – 4 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 5 – 7 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 1 – 2 และ 5 – 7 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่
ในช่วงวันที่ 3 - 4 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 1 – 3 ก.พ. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส
ในขณะที่ในช่วงวันที่ 3 - 7 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี