วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 จากกรณีมีเจ้าของเฟสบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปพระลูกวัดของวัดแห่งหนึ่ง ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ได้มีการยืนชี้หน้าด่า พระลูกวัดอีกวัด ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ด้วยถ้อยคำหยาบคาย และกล่าวหาว่าพระลูกวัด เป็นพระเถื่อนและพระปลอม เนื่องจากพไม่พอใจพระอีกรูปที่มายืนบิณฑบาตทับที่ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลามในโลกโซเซียลตามที่ปรากฏเป็นข่าวและมีการนำเสนอออกไปแล้วนั้น

ล่าสุด ผู้สื่่อข่าวได้เดินทางลงไปที่วัดคลองลำเลียง ซึ่งเป็นวัดที่พระซึ่งเป็นฝ่ายถูกด่า และถูกกล่าวหา โดยที่ พระพันธ์ ฉนฺทโก หรือหลวงศักดิ์ พระที่ถูกด่า กล่าวเปิดใจว่า ก่อนหน้านี้อาตมาเคยไปยืนบิณฑบาตอยู่ประมาณ 4 ปี ต่อมาอาตมาอาพาธก็เลยหยุดบิณฑบาตไปพักหนึ่ง เกือบหนึ่งปี และก็เพิ่งกลับไปบิณฑบาตได้เพียงแค่ 3 วันจนมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยสาเหตุที่ได้ไปยืนที่แห่งนั้นเพราะคุณโยมเขารู้จักกับเราก็มาก เมื่อเรากลับไปยืนคุณโยมก็มาใส่บาตรกับเรา และพูดคุยกัน โดยที่พระหลวงกุ๊กก็ยืนมองอยู่ตลอด ซึ่งไปได้เพียงวันแรกก็กลับถูกพระหลวงกุ๊กด่าเสียแล้ว แถมยังกล่าวหาว่าอาตมาเป็นพระปลอม พระเถื่อน ทำให้อาตมาก็พูดกลับไปว่าถ้าพูดกล่าวหาเช่นนี้อาตมาจะไปแจ้งความ

แต่พระหลวงกุ๊กก็ยังคงด่ามาตลอด แถมยังกล่าวหาอีกว่าอาตมาไปข่มขืนผู้หญิง แต่อาตมายืนยันว่าไม่เคยมี หากมีจริงก็คงจะต้องปาราชิกไปแล้ว แต่ในวันเกิดเหตุพระหลวงกุ๊กกลับมาด่าถึงบุพการี และถ้อยคำที่หยาบคาย อาตมาก็พยายามจะหยิบบัตรสุทธิให้ดูเพื่อยืนยันแล้ว แต่พระหลวงกุ๊กก็ไม่ยอมดู แต่เอาจริงๆจากการที่พระหลวงกุ๊กพูดก็เหมือนว่าจะไม่ให้อาตมามาบิณฑบาตที่แห่งนี้ และหาว่าเราไปยืนดักทางเขา

โดยในปี พ.ศ.2558 อาตมายังคงเป็นพระแต่ได้แอบดื่มสุรา เพราะติดกระท่อมมาเป็นระยะเวลานานด้วย จนถูกจับสึก ต่อมาจึงได้กลับมาขอโอกาสบวชใหม่จนถึงปัจจุบันได้ประมาณ 6-7 ปีแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ถูกด่าก็ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะสิ่งที่พระหลวงกุ๊กพูดมาไม่ได้เป็นความจริง ซึ่งจากการที่พูดคุยกับทางพระผู้ใหญ่เมื่อตอนเช้า ก็พูดว่าอาตมาก็ดีที่ยังคงมีความนิ่งเงียบ ไม่โต้เถียงกับเขาไป แต่ก็พูดว่าหากไม่ไปยืนที่แห่งนั้นแล้วก็ถือเป็นการดี หากจะไปยืนอีกก็ให้เดินอย่ายืนประจำที่ และหลังจากนี้ขอยืนยันว่าจะไม่ทำให้ศาสนาเสื่อมอีกแล้ว อีกอย่างอายุอาตมาก็มากแล้ว จะอยู่ในผ้าเหลืองและทำให้ดีที่สุด

พระอธิการโชคดี ถาวโร เจ้าอาวาสวัดคลองลำเลียง กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องแล้ว ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ตรัง เข้ามาพูดคุยร่วมกันแล้ว หลังจากที่ได้มีการประชุมกันแล้วก็ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่ายังคงไปบิณฑบาตจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่หน้า รพ.ตรัง ได้อยู่ แต่ให้ไปบิณฑบาตแบบปกติธรรมดา อย่าให้ไปยืนประจำที่ แต่ทางด้านพระหลวงศักดิ์ ท่านก็ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเกิดจริง แต่การที่มีการถ่ายคลิปและปรากฏลงสื่อโซเซียลนั้น ท่านไม่ได้เป็นคนถ่ายและไม่ได้เป็นคนสั่งให้ถ่าย ซึ่งพระหลวงศักดิ์เพิ่งจะมาประจำอยู่ที่วัดคลองลำเลียงแห่งนี้ได้เพียงแค่ไม่เกิน 1 สัปดาห์ และที่มีการกล่าวหาพระหลวงศักดิ์ว่าเป็นพระปลอมไม่มีใบสุทธินั้น ตนยืนยันว่าพระหลวงศักดิ์เป็นพระจริง มีใบสุทธิ แต่เรื่องที่เคยถูกจับสึกออกจากพระมาครั้งหนึ่งแล้ว นั้นเป็นเรื่องจริง ซึ่งสาเหตุที่เคยถูกจับสึกครั้งนั้น เพราะดื่มสุรามึนเมา และพระหลวงศักดิ์ได้ถูกจับสึกที่วัดอื่น ไม่ใช่วัดคลองลำเลียงแห่งนี้ ซึ่งสามารถกลับมาบวชบรรพชาได้ใหม่ เพราะไม่ได้ถึงขั้นปราราชิก ยกเว้นเสียแต่ยาเสพติด เช่นยาบ้า เป็นต้น