5 ก.พ.66 พ.ต.อ.กำพล วงษ์สงวน ผู้กำกับการ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นางรอง  ได้ติดตามจับกุมเยาวชนชนชาย อายุ 13 – 16 ปี รวมจำนวน 5 คนได้ที่บ้านพัก  หลังผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกเยาวชนทั้ง 5 คน  ใช้อาวุธปืนบุกปล้นใบกระท่อม  

โดยจากการสอบสวนทราบว่า​ เหตุดังกล่าว เกิดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 3 ก.พ.66 ที่ผ่านมา โดยแก๊งเยาวชนดังกล่าวได้ใช้ยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ 2 คัน  พกพาอาวุธปืนปากกา  และปืนไทยประดิษฐ์  จำนวน 2 กระบอก เข้าไปยิงขู่ขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่เจ้าของร้านที่วางขายใบกระท่อมริมถนนทางหลวงหมายเลข 24 โชคชัย-เดชอุดม  บริเวณตรงข้ามกับสำนักงานเทศบาลเมืองนางรอง  อ.นางรอง  จากนั้นได้ชิงเอาใบกระท่อมที่วางขายไปจำนวน 2 ถุง รวมทั้งหมด 2 กิโลกรัม  แล้วขับรถจักรยานยนต์ที่ใช้ประกอบเหตุหลบหนีไป  ซึ่งหลังจากได้รับแจ้งผู้กำกับการ สภ.นางรอง  ก็ได้นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุด้วยตัวเอง และเมื่อทราบตัวผู้ก่อเหตุว่าเป็นเยาวชนจำนวน 5 คน ก็ได้ติดตามไปควบคุมตัวได้ที่บ้านพักของแต่ละคน   เพื่อนำตัวมาสอบสวนที่โรงพัก  

ซึ่งจากการสอบสวนเยาวชนทั้ง 5 คน ได้ให้การรับสารภาพว่า​ ได้ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนไปปล้นใบกระท่อมที่จุดเกิดเหตุจริง  อ้างว่าไม่พอใจลูกชายเจ้าของร้านที่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทและเคยปาระเบิดใส่ก่อนหน้านี้​ จึงได้ร่วมกันก่อเหตุ ส่วนใบกระท่อมที่เอาไปก็นำไปต้มกินด้วยกันหมดไปแล้ว 1 กิโลกรัม  ที่เหลือประมาณ 1 กิโลกรัม  ตำรวจได้ตรวจยึดมาเป็นของกลาง 

สอบถามนายโก้ (นามสมมุติ)​ อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นคนยิงปืนขึ้นฟ้า บอกว่า สาเหตุที่ก่อเหตุเพราะไม่พอใจที่ก่อนหน้านี้ถูกรุ่นพี่ซึ่งเป็นลูกของเจ้าของร้านปาระเบิดใส่กลุ่มพวกตน   พอเห็นมานั่งขายของริมถนนจึงได้ก่อเหตุยิงข่มขู่ แล้วชิงเอาใบกระท่อมไปต้มกิน  แต่ไม่ได้เจตนาจะยิงโดนใคร 

ด้านนายเกียว (นามสมมุติ)​ อายุ 16 ปี หรือคนในแก๊งจะเรียกว่า “บังเกียว”  ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งฟันน้ำนม บอกว่า แรงจูงใจที่ก่อเหตุเพราะก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องกับลูกชายเจ้าของร้านและเคยถูกลูกชายเจ้าของร้านปาระเบิดใส่   จึงเกิดความแค้นจึงได้พากันนำอาวุธปืนมาก่อเหตุ โดยใช้ปืนยิงขู่ขึ้นฟ้าเพื่อให้เจ้าของร้านกลัว ก่อนจะเข้าไปปล้นเอาใบกระท่อมที่วางขายที่ร้านมา 2 ถุงๆ ละ 1 กิโลกรัม จากนั้นก็พากันเอาไปต้มกินที่บ้านหมดไป 1 กิโลกรัม ก่อนจะถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวและยึดใบกระท่อมที่เหลือมา 

ด้าน น.ส.ดวงรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี  แม่ของบังเกียว  ซึ่งเป็นหัวโจกในกลุ่ม  บอกว่า ตนก็ทำมาหากินเลี้ยงลูกไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ส่วนลูกชายก็ไม่ได้เรียนหนังสือแต่ตนก็จะตักเตือนลูกตลอดอย่าไปมั่วสุมกับเพื่อนๆ  มากเพราะกลัวจะไปทำสิ่งไม่ดี แต่ลูกก็ไม่เคยเชื่อฟังก็เห็นออกไปเที่ยวตามประสาวัยรุ่นตลอด แต่ตนก็ไม่เคยรู้ว่าลูกชายมีปืน  แต่ยอมรับว่าลูกชายดื่มน้ำใบกระท่อมจริง ซึ่งตั้งแต่เปิดเสรีก็เห็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ในหมู่บ้านเขากินใบและต้มน้ำกระท่อมดื่มกันเกือบทั้งหมู่บ้าน เพราะเขาก็รู้ว่าไม่ผิดกฎหมายแล้ว  แต่ก็ไม่คิดว่าลูกจะก่อเหตุใช้ปืนไปปล้นใบกระท่อม ก็เสียใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ 

ด้าน พ.ต.อ.กำพล วงษ์สงวน ผกก.สภ.นางรอง ระบุว่า หลังจากที่เดินทางมารับตำแหน่งใหม่ที่ สภ.นางรอง ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตราคุมเข้มทั้งเรื่องของอาวุธปืน และกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบก่อเหตุทะเลาะวิวาท เพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงหรือสร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่ผู้อื่น ก็สามารถตรวจยึดอาวุธปืนจากกลุ่มวัยรุ่นได้หลายกระบอก ส่วนเหตุการณ์ดังกล่าวหลังได้รับแจ้งก็รีบนำกำลังเข้าตรวจสอบทันที พอทราบว่าเป็นกลุ่มเยาวชนก็ได้ไปนำตัวมาสอบปากคำและดำเนินการตามกระบวนการ โดยได้มีการประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำด้วย   

โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 2 ข้อหา คือ “ร่วมกันปล้นทรัพย์ และร่วมกันมีอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาต” .-008