"ชูวิทย์"โต้ปมร้อน"นายพล จ."แค่โทรเคลียร์ผ่านเลขาฯ ไม่เคยเคลียร์กันโดยตรง ยืนยันไม่รู้จัก-ไม่เคยเจราจาหรือรับเคลียร์ พร้อมให้ข้อมูลกับจเรตำรวจ เท่านั้น หากพบลูกชายหรือคนในครอบครัวเอี่ยวธุรกิจสีเทาขอให้ธุรกิจเจ๊ง!!

เมื่อวันที่ 14 ก.พ.66 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนเเจ้งวัฒนะ นายชูวิทย์ กมลวิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง เปิดเผยถึงกรณี"นายพล จ."ว่า ภายหลังที่ตัวเองได้ให้ข้อมูลพาดพิงว่ามีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับกลุ่มเว็บพนันโดยเฉพาะกลุ่มของพ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือสาวรวัตรซัว อดีตสารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สังกัดกองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุงที่ถูกให้ออกจากราชการแล้วนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ผบ.ตร.ฮึ่ม! สั่งสอบข้อเท็จจริงกรณี'นายพล จ.' เอี่ยวพนันออนไลน์-น้ำมันเถื่อน ขีดเส้น 15 วัน)

ล่าสุดนายพล จ .มีการกล่าว อ้างว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับตนนั้น ไม่เป็นความจริง  ซึ่งตนไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากนายพล จ. และไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัวแต่ได้รับรายงานจากเลขาฯส่วนตัวว่า ได้รับโทรศัพท์จาก นายพล จ.ซึ่งได้กล่าวผ่านเลขาฯ ส่วนตัวว่า “ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสารวัตรซัว”

นายชูวิทย์ ยืนยันด้วย ว่า จะเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับนายพล จ.กับจเรตำรวจชุดที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่งตั้งขึ้นเท่านั้น

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ยังได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ระบุชื่อเรียกว่า ดาบ ศ. ด้วยว่าเป็นนายดาบที่มีการใช้ชีวิตหรูหรามีฐานะร่ำรวยมีรถตู้หรูถึง 3 คัน รีสอร์ทอีกหลายแห่ง  จึงตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะเป็นผู้ที่ทำหน้าที่เป็นหน้าเสื่อ ให้กับนายพล จ.ด้วย

ส่วนความสัมพันธ์ของนายพล จ.กับ สารวัตร ซัว ยืนยันว่า มีความสัมพันธ์กันมานานหรือเริ่มจากความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องของโรงเรียน  ตลอดจนการทำธุกิจสีเทา

สำหรับกระแสข่าว ที่กล่าวพาดพิงว่า  ลูกชายของตนก็มีหุ้นส่วนทำธุรกิจสีเทากับสารวัตรซัวนั้น นายชูวิทย์ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ถ้าหากตรวจสอบพบว่า ลูกชายตนหรือแม้แต่คนใดในครอบครัวของตัวเองเกี่ยวข้องทางธุรกิจกับสารวัตรซัว ขอให้ธุรกิจล่มจมทั้งหมด  โดยตนยินดีให้ข้อมูลเรื่องสารวัตรซัวกับคณะทำงานของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง  แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นการทำงานที่ล่าช้าเพราะสารวัตรซัวมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพียงแค่ 3 นาที ก็สามารถโยกย้ายถ่ายโอนข้อมูลทุกอย่างได้แล้ว

ส่วนการทำธุรกิจสีเทาของสารวัตรซัวจะเกี่ยวข้องกับ มาเก๊า 888  หรือไม่  นายชูวิทย์ ระบุว่า เป็นคนละกลุ่มก๊วนกัน   แต่ธุรกิจมีความใกล้เคียงกันน่าจะ รู้จักกันเป็นธรรมดา  พร้อมกล่าวถึงภาพถ่ายที่เพจเหยื่อโพสต์ เผยแพร่พร้อมระบุข้อมูลว่า  เป็นกลุ่มเจ้าของเว็บพนันออนไลน์และมีตำรวจยศนายพล  ยืนตรงกลางภาพ ด้วยว่า  นายพล คนดังกล่าวน่าจะเกี่ยวข้องในลักษณะ ดูแลและอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจของกลุ่มคนในภาพ.-001