DSI เปิด 8 รายชื่อส่งอัยการคดีแชร์ Forex-3D ลอต'ดีเจแมน-ใบเตย' ด้านรองโฆษก อสส.เผยใครเบี้ยวไม่มาฟังคำสั่งฟ้องคดีหรือไม่วันที่ 16 มี.ค.นี้ เจอขอศาลออกหมายจับ
จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความเห็นในสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 273/2565 เห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีแชร์ Forex-3D จำนวน 8 ราย อาทิ นายพัฒนพล กุญชร หรือ ดีเจแมน น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือ ใบเตย นายแดรัล ยัง เป็นต้น ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาในคดีเดียวกันจำนวน 8 ราย ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 15 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงยุติธรรม ว่าการสั่งฟ้องหรือการไม่สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 16 ราย ของคณะพนักงานสอบสวน ยึดโยงจากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดที่ผ่านมา ซึ่งตนทราบว่าพนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนคดีจะต้องใช้ความรอบคอบและละเอียด เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เนื่องจากพนักงานสอบ
สวนคือต้นทางของกระบวนการยุติธรรมก็จะต้องดำเนินการให้ครบถ้วนที่สุด โดยวานนี้ (14 ก.พ.) ทางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษก็ได้ประสานไปยังอัยการเพื่อให้รอรับการรายงานตัวของผู้ต้องหาที่ถูกดีเอสไอสั่งฟ้องทั้ง 8 รายว่ามารายงานตัวกันครบทุกคน
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากดีเอสไอระบุว่า สำหรับมติความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้องของคณะพนักงานสอบสวนนั้น ตนทราบว่าทางคณะพนักงานสอบสวนได้มีการรายงานมติความเห็นทางคดีทั้งหมดไปยัง พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อบรรยายว่ามีการสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้องบุคคลด้วยเหตุผลใดบ้าง พร้อมยืนยันว่าการสั่งฟ้องผู้ต้องหา 8 รายของคณะพนักงานสอบสวนไม่ได้ล่าช้า เนื่องจากเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2566 ดีเอสไอสามารถติดตามจับกุมตัวนายแดรัล ยัง ชาวสิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายสำคัญได้ จึงต้องนำผลการสอบปากคำการพิมพ์ลายนิ้วมือมารวมไว้ในสำนวนเดียวกันเพื่อสรุปสำนวนส่งอัยการ ซึ่งเป็นการดำเนินการภายในกรอบระยะเวลาของกฎหมายและเสร็จสิ้นทันการฝากขังนายแดรัล ยัง
แหล่งข่าวจากดีเอสไอ กล่าวถึงขั้นตอนภายหลังการส่งสำนวนของดีเอสไอว่า ระหว่างที่พนักงานอัยการตรวจสำนวน หากพบว่ามีความเห็นพ้อง ก็จะมีการนำตัวผู้ต้องหาไปฟ้องต่อศาล แต่ถ้าหากอัยการไม่เห็นพ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง ก็จะต้องให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด แต่ถ้าในกรณีดีเอสไอสั่งไม่ฟ้องบุคคลใด แล้วอัยการเห็นแย้งว่าควรสั่งฟ้อง ดีเอสไอก็จะต้องนำตัวผู้ต้องหาไปสั่งฟ้อง ส่วนจะต้องสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ ก็ต้องมีการส่งหนังสือไปที่อัยการเพื่อสอบถามว่าจะให้สอบปากคำบุคคลใดเพิ่มเติม จากนั้นอัยการก็จะมีคำสั่งให้สอบปากคำเพิ่มเติมตามขั้นตอน
เมื่อถามถึงกรณีของผู้ต้องหาทั้ง 8 รายที่ดีเอสไอสั่งฟ้องต่ออัยการอยู่ในขณะนี้ มีเงื่อนไขห้ามเดินทาง ออกนอกราชอาณาจักรระหว่างที่อัยการตรวจทานสำนวนคดีหรือไม่ แหล่งข่าวดีเอสไอ กล่าวว่า ตนทราบว่าในส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและดุลพินิจของพนักงานอัยการที่รับผิดชอบสำนวนคดีว่าจะมีการกำหนดเงื่อนไขใดแก่ผู้ต้องหาทั้ง 8 รายหรือไม่ ทั้งนี้ หากย้อนดูภาพรวมจะพบว่าผู้ต้องหาหลายรายไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี และล้วนเข้ามาพบตามหมายเรียกยกเว้นนายแดรัล ยัง อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าพนักงานสอบ สวนทำสำนวนคดีด้วยความรอบ คอบ รัดกุม โปร่งใสตรงไปตรงมา
ขณะที่นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคุ้ม ครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) เเละในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เบื้องต้นตนยังไม่ทราบว่าทางอัยการเจ้าของสำนวนได้มีการกำหนดเงื่อนไขใดหรือไม่กับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ ในระดับชั้นพนัก งานสอบสวน(ดีเอสไอ) ได้มีการให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน ซึ่งมีเหตุมาจากการเห็นว่าบรรดาผู้ต้องหาไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี ดังนั้น ในวันที่ 16 มี.ค.นี้ ที่อัยการได้มีการนัดหมายครั้งแรกให้ผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย เข้าฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่นั้น อย่างไรก็ตาม หากทั้งหมดหรือมีบุคคลใดหลบหนีไม่มาในวันดังกล่าว อัยการก็จะต้องดำเนินการขอศาลอนุมัติออกหมายจับด้วยการแนบเหตุที่แสดงให้เห็นถึงการไม่ให้ความร่วมมือที่ผิดปกติหรือพฤติการณ์หลบหนี แต่หากเป็นการเจ็บป่วยไข้ก็ไม่เข้าข่าย
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้สรุปความเห็น "เห็นควรสั่งฟ้อง" ผู้ต้องหารวม 8 ราย ประกอบด้วย นายพัฒนพล มินทะขิน สกุลเดิม กุญชร ณ อยุธยา หรือ ดีเจแมน, น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือ ใบเตย, นายฉัตรชัย หรือ เสือ คชทิน, นายธีร์ภัสกร หรือ มาร์ค กิมวังตะโก, นายสุรนาถ นาคมุสิก, นายอายุวัต ชัยเมธนากูล, นายเเดรัล ยังฮุย ไช หรือ Mr.Daryl Cai Yonghui (ชาวสิงคโปร์) และนายอดัม โพการี หรือ Mr.Adam Polaris (ชาวฮังการี) ขณะที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษยังได้สรุปความเห็น "เห็นควรสั่งไม่ฟ้อง" ผู้ต้องหารวม 8 ราย ประกอบด้วยนางพรมพร กลปราณีต, นายปภพ กลปราณีต, น.ส.สุธิดา คุณโน, นายไพศาล เจนเจริญพันธ์, น.ส.ศศิมา สีลุน, นายปิยวัฒน์ ปฐมวาณิชย์, นายอรรถพล คำมีสว่าง และ น.ส.กัลยา ดงแก้วมณี.-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี