“ในหลวง-พระราชินี”พระราชทานสิ่งของช่วยเหลือชาวตุรกี ที่ประสบเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหวโดยกองทัพอากาศจัดเที่ยวบินพิเศษเชิญสิ่งของพระราชทานไปให้ทางการตุรกี ด้านยูเอ็นร้องขอความช่วยเหลือนานาชาติ สมทบทุน มูลค่า 397 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ13,544ล้านบาท ให้เหยื่อแผ่นดินไหวในซีเรีย ส่วนตุรกี รอประเมินตัวเลขที่ชัดเจน ขณะยอดผู้เสียชีวิตเหตุดินไหว‘ตุรกี-ซีเรีย’ทะลุ4.1หมื่นศพแม้ภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพังใกล้ยุติ แต่ทีมกู้ภัยยังเดินหน้าสำรวจต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี เชิญสิ่งของพระราชทาน ได้แก่ เครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก ซึ่งมีความจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน ถุงนอนกันหนาว ที่กันความเย็นได้ถึงอุณหภูมิติดลบ 24 องศาเซลเซียส เต็นท์นอนขนาดใหญ่ สำหรับ 5-6 คน ผ้านวมกันหนาว อาหารแห้ง นม และน้ำดื่ม ไปมอบแก่นางแซรัป แอร์ซอย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกี ประจำประเทศไทย ที่โรงเก็บอากาศยาน ฝูงบิน 601 กองบิน 6 กองทัพอากาศ เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยกองทัพอากาศ เป็นผู้ดำเนินการจัดส่งสิ่งของพระราชทานไปยังสาธารณรัฐตุรกี เพื่อนำไปช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนชาวตุรกีต่อไป
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวในสาธารณรัฐตุรกีอย่างใกล้ชิด ทรงมีพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐตุรกี กรณีเกิดแผ่นดินไหว ที่จังหวัดคาห์รามันมาราช สาธารณรัฐตุรกี ด้วยน้ำพระราชหฤทัยห่วงใยในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการจัดหาสิ่งของที่จำเป็น เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนชาวตุรกีที่ประสบเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว
ทั้งนี้ สาธารณรัฐตุรกี เกิดเหตุแผ่นดินไหว ที่จังหวัดคาห์รามันมาราช เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ความเสียหายอันเกิดจากแผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูด และการสั่นสะเทือนที่ตามมานั้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ผู้สูญหาย และผู้ไร้ที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ทั้งยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือน ทรัพย์สิน และโครงสร้างพื้นฐานเป็นวงกว้าง
ด้าน พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศเปิดเผยว่า กองทัพอากาศจัดเที่ยวบินพิเศษเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 (Airbus 340-500) 1 เครื่อง เชิญสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปยังสาธารณรัฐตุรกี เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง กำหนดออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมืองคืนนี้ (วันที่ 15 กุมภาพันธ์) เวลา 23.20 น. ไปสนามบินอังการา สาธารณรัฐตุรกี ซึ่งในเที่ยวขากลับ เครื่องบินลำดังกล่าวจะรับคนไทย ที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ และลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตกลับประเทศไทยตามที่ได้รับการประสานจากกระทรวงต่างประเทศ โดยมีกำหนดเดินทางกลับถึงไทยวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เวลา 21.10 น.ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง
ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศยังรายงานความคืบหน้าภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในตุรกีและซีเรียต่อเนื่องโดยนายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศขอความช่วยเหลือจากนานาชาติมูลค่า 397 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 13,544 ล้านบาทให้ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในซีเรีย เพื่อนำไปใช้บรรเทาทุกข์ช่วยชีวิตชาวซีเรียเกือบ 5 ล้านคนเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนชาวตุรกีที่ประสบภัยแผ่นดินไหวขนาด 7.8 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์เช่นเดียวกัน ยูเอ็นใกล้สรุปตัวเลขความช่วยเหลือได้เร็ววันนี้
ขณะนี้คนหลายล้านในภูมิภาคดังกล่าวกำลังดิ้นรนให้มีชีวิตรอดในสภาพที่ไร้ที่อยู่อาศัย ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บ ขอให้สมาชิกยูเอ็นให้เงินสนับสนุนอย่างเต็มที่และทันที เพื่อช่วยประชาชนหลายล้านคนที่ชีวิตต้องพลิกผันเพราะภัยพิบัตินี้ที่ร้ายแรงที่สุดในหนึ่งชั่วอายุคน
เลขาธิการยูเอ็น ยังร้องขอต่อทางการซีเรีย ให้เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์สามารถปฏิบัติภารกิจในซีเรียได้อย่างเสรี หลังจากนักเคลื่อนไหวและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียตำหนิยูเอ็นว่า มีความล่าช้าในการช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายต่อต้าน
ส่วนประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย ยอมเปิดจุดผ่านแดนที่ชายแดนติดกับตุรกีอีก 2 จุดเพื่อให้สหประชาชาติสามารถจัดส่งความช่วยเหลือข้ามพรมแดนจากตุรกีสู่พื้นที่กบฏในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียไปถึงผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวได้รวดเร็วขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยขบวนแรกจากองค์การสหประชาชาติและนานาชาติ เดินทางจากตุรกีถึงดินแดนภายใต้การควบคุมของกลุ่มกบฏในซีเรียที่จุดผ่านแดนเปิดใหม่ 2 แห่ง บับ อัล-ซาลาม และ อัล-ลาอีร์แล้ว โดยขบวนรถบรรทุก 11 คัน ประกอบด้วย สิ่งของบรรเทาทุกข์เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว เช่น เต็นท์ที่พัก เวชภัณฑ์ ผ้าห่มกันหนาว และน้ำยาทำความสะอาด ซึ่งจุดผ่านแดนทั้งสองแห่งถูกร้องขอจากสหประชาชาติให้กลับมาเปิดใช้อีกครั้ง เพื่อเป็นช่องทางลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรรมไปยังซีเรีย หลังถูกปิดไปตั้งแต่ปี 2563
ด้านกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) เผยว่า แม้ยังไม่ทราบจำนวนเด็กได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในตุรกีและซีเรียที่แน่ชัด แต่มีข้อมูลว่า เด็ก 4.6 ล้านคนอาศัยอยู่ใน 10 จังหวัดที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว และเด็กอีกมากกว่า 2.5 ล้านคนในซีเรีย นอกจากนี้ ครอบครัวจำนวนมากต้องไร้ที่อยู่อาศัย ต้องอาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราว ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวสร้างความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสให้ผู้ประสบภัย ขณะที่ปัญหาการเข้าถึงน้ำสะอาดและสุขอนามัย รวมถึงการรักษาพยาบาลเป็นอีกประเด็นที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
สอดคล้องกับความกังวลของหลายฝ่ายว่า ภารกิจค้นหากู้ภัยใกล้จะสิ้นสุดแล้ว เพื่อปรับเปลี่ยนสู่การบรรเทาทุกข์เพื่อให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ผู้ประสบภัย แต่หน่วยกู้ภัยยังคงพยายามค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพังในพื้นที่ในจังหวัดฮาทัย คาห์รามันมาราส ที่เป็นศูนย์กลางแผ่นดินไหว และอาดิยามาน ของตุรกี เนื่องจากยังได้ยินเสียงของผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพัง
สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวทั้งในตุรกีและซีเรียเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีผู้เสียชีวิต 41,218 ราย ในตุรกี 35,418 และอีกอย่างน้อย 5,800 รายในซีเรีย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี