"มาดามแป้ง" เจ้าของคาเฟ่ชื่อดังเมืองตรัง ควบกระบะพร้อมเพื่อนสาวกลับบ้าน หลังกลับจากสถานบันเทิง ระหว่างทางรถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าขาดสะบั้น 2 ท่อนเสียหายยับเยินทั้งคัน เจ้าตัวบาดเจ็บปลอดภัย ส่วนเพื่อนที่นั่งข้างยังโคม่า กู้ภัยตัดถ่างนำร่างออกมาช่วยเหลือซีพีอาร์ช่วยยื้อชีวิต คาดแสงไฟรถสวนมาแยงตา
เมื่อเวลา 03.30 น.ของวันนี้ (17 ก.พ.66) ศูนย์วิทยุสื่อสารและสั่งการนเรนทรตรัง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าและพลิกคว่ำ มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ในตัวรถ 2 ราย เหตุเกิดริมถนนสายตรัง-น้ำผุดหน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 10 บ้านขุนสิทธิ์ ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง หลังรับแจ้งจึงได้สั่งการให้หน่วยกู้ชีพ อบต.บ้านโพธิ์ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง และทีมกู้ชีพ รพ.ตรัง พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าตรวจสอบ พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือยังที่เกิดเหตุ ก่อนจะประสานไปยัง ร.ต.อ.เวชยันต์ หิรัญญสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยกสูง ยี่ห้อเอ็มจี (MG) สี่ประตู สีขาว ทะเบียนตรัง พลิกตะแคงขวาอยู่หน้าบ้านเลขที่ดังกล่าว ซึ่งอยู่ริมทางขอบถนน สภาพพังยับเยินทั้งคัน กระจกหน้าแตก ซึ่งตัวหัวรถได้รับความเสียหายอย่างหนัก ถุงลมนิรภัยทำงาน มีข้าวของ เศษซากอะไหล่รถตกเกลื่อนพื้น ตรวจสอบภายในรถพบผู้บาดเจ็บรายแรกเป็นคนขับ ทราบชื่อคือคนขับชื่อ น.ส.ธิดาวรรณ หรือมาดามแป้ง อายุ 35 ปี อยู่หมู่ 7 ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเขาหลักคาเฟ่ได้รับบาดเจ็บรู้สึกตัว
เจ้าหน้าที่จึงทำการช่วยเหลือออกมาจากซากรถ และนำตัวส่ง รพ.อย่างปลอดภัย ขณะที่คนนั่งเบาะข้างทราบชื่อคือ น.ส.อลิตา อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนคนขับได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส มีบาดแผลบริเวณใบหน้า ไม่รู้สึกตัว จับชีพจรไม่ได้และติดอยู่ภายในซากรถ เจ้าหน้าที่ต้องทำการใช้อุปกรณ์ตัดถ่างก่อนนำตัวออกมาสำเร็จ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนจะซีพีอาร์ หรือปั้มหัวใจ และนำส่ง รพ.ตรังอย่างเร่งด่วน
ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าก่อนจะถึงจุดที่รถพลิกคว่ำลักษณะถนนเป็นโค้งเพียงเล็กน้อย ความเสียหายรถได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าทรัพย์สินทางราชการริมขอบถนนหัก 2 ท่อนจำนวน 1 ต้นชนิดถอนรากถอนโคน ส่งผลทำให้สายไฟฟ้าห้อยระโยงระยาง และยังมีป้ายบอกทางแบบ 2 เสาทรัพย์สินทางราชการถูกความแรงรถหักล้มลงด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ต้นไม้ใหญ่จำนวน 1 ต้นที่ปลูกอยู่หน้าบ้านล้มเอนไปด้วยอีก 1 ต้น ก่อนจะเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเจ้าเข้ามาตรวจสอบ
สอบถาม น.ส.ณัฎฐนันท์ อายุ 33 ปี เพื่อนคนขับ เล่าว่า คนขับและคนนั่งข้างได้ไปนั่งดื่มที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองตรัง โดยที่คนขับไม่ได้มึนเมา ก่อนจะออกจากสถานบันเทิงมานั่งกินข้าวต้นกันต่อ จึงได้แยกย้ายกัน ก่อนที่คนขับจะขับรถคันดังกล่าวกลับบ้านในพื้นที่ ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง พร้อมเพื่อนที่นั่งข้าง ระหว่างทางคนขับได้โทรมาหาตนว่าตอนี่นั่งอยู่สถานบันเทิงได้นำเงินไปแลกกับเด็กเสิร์ฟ แต่ยังไม่ได้เงินคืน ก่อนตนจะประสานกับเด็กที่ร้านให้ เมื่อเสร็จเรื่องจึงโทรกลับมาหาคนขับ ปรากฏว่าคนขับรับสายและแจ้งว่ารถพลิกคว่ำแล้ว ตนจึงรีบขับรถมาที่เกิดเหตุ จากการคุยกับคนขับ ยังคงมีสติ คุยรับรู้ได้ปกติ และบอกว่าขับสวนกับรถ จยย. ซึ่งเปิดไฟสูงแยงตา
ขณะที่ น.ส.จินตนารัตน์ อายุ 20 ปี เจ้าของบ้านติดกับจุดเกิดเหตุ บอกว่า ขณะนั้นตนได้ให้นมลูกอ่อนอยู่ภายในบ้าน เนื่องจากลูกตื่นมาพอดี ก่อนจะได้ยินเสียงดังคล้ายแผ่นดินไหว ดังมากบ้านสะเทือนไปทั้งหลังเลย และได้ให้แฟนออกจากบ้านมาดูและเข้าช่วยเหลือเบื้องต้น ก็ตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะจุดหน้าบ้านได้เกิดเหตุเช่นนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากคำผู้ขับขี่อย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินความเสียหายในส่วนของทรัพย์สินทางราชการต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี