เลขาธิการ กพฐ.ย้ำผอ.สพท.ต้องบอกได้โรงเรียนในพื้นที่มีกี่แห่ง-พัฒนาผู้เรียนมี 5 สมรรถนะ
20 กุมภาพันธ์ 2566 ที่โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพฯ นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จำนวน 245 เขต ทั่วประเทศ ว่า ขอเน้นย้ำผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ ทุกคน ให้ความสำคัญเรื่องการจัดการเรียนการสอน แม้ปัจจุบันเราสอนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งในหลักสูตรนั้น กำหนดให้ผู้เรียนมี 5 สมรรถนะ ดังนี้ ความสามารถในการสื่อสาร, ความสามารถในการคิด ,ความสามารถในการแก้ปัญหา , ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี แต่ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ สามารถบอกได้หรือไม่ ว่า โรงเรียนในพื้นที่ของตนมีกี่แห่ง ที่มีหลักสูตรที่สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะทั้ง 5 นี้ได้แล้ว และมีการบูรณาการจัดการเรียนการสอนอย่างไร หรือพูดกันแค่ในเอกสาร แต่ในความจริงการจัดการเรียนการสอนยังเหมือนเดิม ยังไม่เป็นรูปธรรม และครูมีความรู้ความเข้าใจ สามารถจัดการเรียนการสอนให้เด็กมีสมรรถนะได้กี่คน ซึ่งตนมองว่า ถ้าเรากำหนดแผนการจัดการเรียนการสอนไม่ได้ เราก็ไม่สามารถขับเคลื่อนเขตพื้นที่ฯ ได้ ดังนั้น เขตพื้นที่ฯ จะต้องจัดทำแผนการขับเคลื่อนและยกระดับการศึกษาในพื้นที่ของตน ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาในยุคหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และภาวะการเรียนรู้ถดถอย (Learning Loss)
นายอัมพร กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการบริหารงานบุคคล ขณะนี้เรามีคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา 245 เขตทั่วประเทศแล้ว จึงมอบหมายให้ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ ดำเนินการสำรวจอัตรากำลังในเขตพื้นที่ของตน ว่ามีโรงเรียนขาดแคลนครูกี่แห่ง เกินอัตรากี่แห่ง และวางแผนจัดอัตรากำลัง เพื่อให้มีอัตรากำลังเพียงพอและตอบโจทย์การศึกษาในพื้นที่ โดยผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯจะต้องทำการสำรวจและจัดสรรข้อมูลอัตรากำลังคนให้เสร็จภายในเดือนมีนาคม นี้
“สิ่งที่ผมห่วงใย คือ จะบริหารงาน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ อย่างไรถึงจะประทับใจครู บริหารงานอย่างไรไม่ให้เกิดคำครหา เพราะวันนี้มีคนจ้อง ทำดีแค่อยู่ตัว ทำผิดพลาดได้ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งแน่นอน อำนาจการบริหารงานบุคคลเคยไปอยู่ที่คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เพราะเหตุผลใด ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ ทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้ว ดังนั้น ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ จึงอยากให้ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ ทำความเข้าใจกับ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯให้ดี ทุกวันนี้เราจะเห็นข่าวเกี่ยวข้องกับครูและนักเรียนเป็นประจำเกือบทุกวัน ที่ผ่านมาเขตพื้นที่ฯ จะรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผมทราบหลังจากเป็นข่าวแล้วเสมอ ไม่มีเขตพื้นที่ไหนรับรู้ปัญหาก่อนที่จะเป็นข่าวแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งภัยต่างๆ เราห้ามไม่ได้ แต่เราสามารถบริหารจัดการได้ คือ ต้องมีมาตรการป้องกันให้เพียงพอ เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วจะต้องบริหารจัดการปัญหาเฉพาะหน้าอย่างรวดเร็ว เข้าถึงปัญหาให้ไว และจะระงับเหตุอย่างไร รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และให้ความช่วยเหลือเด็กอย่างรวดเร็ว ทำความเข้าใจและดูแลผู้ปกครอง” นายอัมพร กล่าว
-005