วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
รัฐบาลเตือนกฎหมายจราจรใหม่ปรับหนัก ย้ำอย่าลืมเรื่อง‘เข็มขัดนิรภัย-คาร์ซีท’

รัฐบาลเตือนกฎหมายจราจรใหม่ปรับหนัก ย้ำอย่าลืมเรื่อง‘เข็มขัดนิรภัย-คาร์ซีท’

วันพฤหัสบดี ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 08.10 น.
Tag : เข็มขัดนิรภัย กฎหมายจราจร รัฐบาล คาร์ซีท
  •  

​รัฐบาลห่วงใยผู้ใช้รถเตือนให้ความสำคัญกับการใช้อุปกรณ์ป้องกันภัย รัดเข็มขัดนิรภัยทุกตำแหน่งตลอดการเดินทาง พ่อแม่ผู้ปกครองให้ความสำคัญจัดหาใช้คาร์ซีทสำหรับบุตรหลาน ป้องกันอันตราย ลดการบาดเจ็บและสูญเสียกรณีประสบอุบัติเหตุ

23 กุมภาพันธ์ 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อผู้ใช้รถเนื่องจากพบว่าในอุบัติเหตุทางถนนได้เกิดความสูญเสียเนื่องจากการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รัฐบาลขอเตือนให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการใช้อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ทั้งการสวมหมวกกันน็อค การคาดเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถยนต์ในทุกตำแหน่งและตลอดเวลาขณะใช้รถยนต์ การจัดหาที่นั่งนิรภัย(คาร์ซีท) หรือที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก เพื่อป้องกันอันตราย ลดการบาดเจ็บและสูญเสียกรณีประสบอุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด


นอกจากนี้ ยังเป็นการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่13) พ.ศ.2565 ที่ได้กำหนดโทษกรณีไม่คาดเข็มขัดนิรภัย จะมีโทษปรับ 2,000 บาท ซึ่งเพิ่มโทษจากเดิมที่ 500 บาท เช่นเดียวกับการไม่สวมหมวกนิรภัยหรือหมวดกันน็อค ที่มีโทษปรับ 2,000 บาท จากเดิม 500 บาท

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.จราจรฯ ปัจจุบันยังได้กำหนดให้คนโดยสารรถยนต์ที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือนั่งในที่พิเศษด้วย ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลก็ได้ให้การสนับสนุนโดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติให้มีการยกเว้นภาษีนำเข้าคาร์ซีทสำหรับเด็กจากปกติร้อยละ 20 รายละเอียดเป็นไปตามประกาศ กระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ 5) ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. 65 ไปจนถึง 31 ธ.ค. 66 เพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระด้านราคาให้กับพ่อแม่ผู้ปกครอง เนื่องจากปัจจุบันคาร์ซีทส่วนใหญ่ยังอาศัยการนำเข้าจากต่างประเทศ ผู้ประกอบการไทยที่ผลิตในประเทศยังมีจำนวนน้อย

กองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ปัจจุบันเด็กไทยใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กเพียงร้อยละ 3.46 เท่านั้น โดยในช่วงปี 60-64  มีเด็กอายุ 0-6 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 1,155 คน โดยในจำนวนนี้ 221 คนเป็นการเสียชีวิตจากการโดยสารรถยนต์

โดยกองป้องกันการบาดเจ็บฯ ได้มีคำแนะนำการเลือกคาร์ซีท จะต้องพิจารณาใน 4 จุดที่สำคัญคือ เข็มขัดนิภัย, มาตรฐานความปลอดภัย, ความใหม่ของผลิตภัณฑ์ และความเหมาะสมกับช่วงวัย โดยการติดตั้งจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัดควรติดตั้งที่ที่เบาะหลัง ไม่ควรติดตั้งที่เบาะด้านหน้าข้างคนขับ เนื่องจากเมื่อเกิดอุบัติเหตุเด็กอาจโดนกระแทกจากถุงลมนิรภัยได้

สำหรับการเลือกคาร์ซีทสำหรับเด็กแต่ละช่วงวัยนั้น มีดังนี้ เด็กแรกเกิด-3 ปี ควรใช้คาร์ซีทสำหรับทารก/เด็กเล็ก ที่เป็นที่นั่งแบบปรับให้หันหน้าไปด้านหลังรถ(Rear-facing car seat)  เด็ก 2-6 ปี ใช้คาร์ซีทเป็นที่นั่งแบบหันหน้ามาด้านหน้า (Forward-facing car seat) หรือ เด็ก 4-12 ปี สามารถ ใช้ Booster Seat เป็นที่นั่งแบบหันหน้ามาด้านหน้าสำหรับเด็กโต โดยใช้ร่วมกับเข็มขัดนิรภัยปกติ (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักและส่วนสูง) ส่วนเด็กอายุมากกว่า 12 ปี ให้คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ทุกตำแหน่งที่นั่งโดยสาร

-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รบ.ยันคุมโควิดได้  ชี้ผู้ติดเชื้อลดแล้ว  ขอให้ปฏิบัติตาม  มาตรการป้องกัน รบ.ยันคุมโควิดได้ ชี้ผู้ติดเชื้อลดแล้ว ขอให้ปฏิบัติตาม มาตรการป้องกัน
  • รัฐบาลยันคุม‘โควิด’อยู่ ย้ำเคร่งครัด 5 มาตรการป้องกัน สกัดแพร่เชื้อ รัฐบาลยันคุม‘โควิด’อยู่ ย้ำเคร่งครัด 5 มาตรการป้องกัน สกัดแพร่เชื้อ
  • เปิดอาการ‘โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติก’ คร่าชีวิตคนไทยแล้วมากถึง 4 หมื่นราย เปิดอาการ‘โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติก’ คร่าชีวิตคนไทยแล้วมากถึง 4 หมื่นราย
  • แรงงานร้องรบ.  ปรับค่าแรง492บาททั่วปท.  ยื่น7ข้อเสนอดูแลเร่งด่วน แรงงานร้องรบ. ปรับค่าแรง492บาททั่วปท. ยื่น7ข้อเสนอดูแลเร่งด่วน
  • รบ.เตือนเฝ้าระวัง5โรคหลังเล่นสงกรานต์ รบ.เตือนเฝ้าระวัง5โรคหลังเล่นสงกรานต์
  • \'รองนายกฯประเสริฐ\'มอบ สสส.ทำงานคู่ขนานรัฐ สื่อสารอันตรายบุหรี่ไฟฟ้า 'รองนายกฯประเสริฐ'มอบ สสส.ทำงานคู่ขนานรัฐ สื่อสารอันตรายบุหรี่ไฟฟ้า
  •  

Breaking News

เซเว่น อีเลฟเว่น ผนึกกำลังรัฐ หนุนเกษตรกรไทย กระจายผลไม้ทั่วประเทศ

รวบลุงเขยหื่น! ย่ำยีหลานสาววัย 13 หลายครั้ง อ้างเด็กสมยอม

อุทาหรณ์สูงวัย! ‘ลุงปีนหลังคา’ เผลอพาดสายไฟแรงสูง-โดนดูดเสียชีวิต

(คลิป) 'เจ๊ปอง' ซัด! 'แพทองธาร' อย่าแถ! 'แพทยสภา' ชี้ชัดเจน 'ทักษิณ' ไม่ได้ป่วยวิกฤติ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved