ผบ.ตร.ปฎิเสธไม่มีนายตำรวจหน้าห้องเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ แต่ยอมรับมีตำรวจบางนายเกี่ยวข้องตามที่ อัจฉริยะ แฉจริง พร้อมสั่ง ภ.2 ตั้งคกก.ตรวจสอบ ผกก.เอี่ยวเว็บ SAIPAY69

23 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า ตนยอมรับมีตำรวจบางนายเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ตามที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าร้องเรียนให้มีการตรวจสอบตำรวจมากกว่าร้อยนาย ตั้งแต่ระดับ ผบช.-สารวัตร แต่จะมีมากน้อยเพียงใดหรือมีข้อเท็จจริงอย่างไรนั้น ยังไม่ยืนยัน แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะมีจำนวนมากขนาดนั้น ที่ผ่านมาได้สั่งการให้หน่ายงานที่เกี่ยวข้องและต้นสังกัดตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลทั้งหมด พร้อมยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเก็บกวาดบ้านตัวเอง โดยตำรวจนายใดที่กระทำผิดเสียเองก็จะต้องดำเนินคดีโดยไม่มีการละเว้น

ส่วนกรณีที่ นายอัจฉริยะ จะนำรายชื่อตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันกว่าร้อยนายมาติดประจานที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันที่ 27 ก.พ.นี้ ก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนไม่เช่นนั้นเจ้าตัวที่ถูกพาดพิงก็มีสิทธิ์จะฟ้องร้องดำเนินการทางกฎหมาย ส่วนที่กล่าวหาว่ามีนายตำรวจระดับ รองผู้บัญชาการปฏิบัติหน้าที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินั้น ยืนยันว่าจากการตรวจสอบไม่มีนายตำรวจระดับ ผบช.คนดังกล่าวเพราะตำแหน่งที่กล่าวอ้างมีทั้งรอง ผบช.ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติและรองผู้บัญชาการทำหน้าที่อื่นๆอีกหลายนาย จึงไม่มั่นใจว่าเป็นการกล่าวหานายตำรวจท่านใด

ผบ.ตร. ระบุว่า กรณีตำรวจระดับผู้กำกับการของ บช.สอท. เข้าไปมีส่วนเป็นเจ้าของเว็บพนันและมีการวิ่งเต้นเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ตรงนี้หากมีหลักฐานก็นำมามอบให้ได้ เพราะถือว่าเป็นประโยชน์และขอให้ต้นสังกัดไปตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว ยืนยันว่าที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบคนที่ทำงานรอบตัวของตัวเองและคนใกล้ชิดว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์และสิ่งผิดกฎหมายอยู่ตลอด แต่หากใครมีพยานหลักฐานว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องก็พร้อมจะตรวจสอบ ส่วนตัวเองไม่กล้าการันตีให้ใครว่าไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย แต่เชื่อว่าสถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่นายอัจฉริยะพูด

“กรณีมีนายตำรวจระดับ ผกก.สภ. ในภาคตะวันออก เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน หลังพบถูกผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่ามีการระบุว่าเป็นเจ้าของเว็บพนัน SAIPAY69 และเส้นทางการเงินเชื่อมโยงไปยังนายตำรวจดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน หากมีเพียงพอก็จะออกหมายเรียกหรือแจ้งข้อกล่าวหาแก่ตำรวจนายดังกล่าว และให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (บช.ภ.2) ตั้งคณะกรรมการสอบวินัย และให้ บช.ภ.2 มีคำสั่งให้ ผกก.คนดังกล่าวมาปฏิบัติหน้าที่ ศปก.ตร.จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ” ผบ.ตร. กล่าว

-005