ไทยล่า‘ก๊ก อาน’

ตม.สระแก้วติดหมายจับ

โต้เขมรปม‘วัดภูม่านฟ้า’

มทภ. 2 เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อเฟคนิวส์ สั่งถอนกำลัง หวังปั่นกระแสยั่วยุ สร้างความเข้าใจผิด ยันทหารตรึงกำลังปกป้องอธิปไตยเข้มแข็งตลอด 24 ชม.ขณะที่เจ้าหน้าที่ตม.สระแก้วนำภาพ“ก๊ก อาน”คนสนิท ฮุน เซนที่ถูกทางการไทย ออกหมายจับความผิดฐานโยงแก๊งคอลฯร่วมอาชญากรรมข้ามชาติไปติดประกาศไว้ด่านตม. ด้านทีมไทยแลนด์สวนเขมรกลางกก.มรดกโลก ยัน“วัดภูม่านฟ้า” ที่บุรีรัมย์ไม่ได้สร้างเลียนแบบนครวัด สอนมารยาททำแบบนี้ไม่เหมาะสม ส่วนไวยาวัจกรวัดยันเป็นภูมิปัญญาไทยล้วนๆจำลองมาจากปราสาทพนมรุ้ง-ปราสาทหินพิมาย เย้ยอาจเจอปัญหาเยอจนคิดมาก

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีการปล่อยเฟกนิวส์ โดยอ้างว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์สั่งถอนกำลังที่เคลื่อนย้ายมาแนวหน้ากลับทั้งหมด เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความจริงใจอย่างถาวรว่า ขอแจ้งเตือนประชาชน หลังพบมีการเผยแพร่ข้อความเท็จ ผ่านโซเชียลมีเดีย ใช้คำพูดลักษณะบิดเบือนเจตนายั่วยุ ปลุกปั่น และสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนทั่วไป ซึ่งตนไม่เคยให้สัมภาษณ์ลักษณะดังกล่าว ยืนยันทหารไทยยังปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติอย่างเข้มแข็ง และมีขวัญกำลังใจดีเยี่ยม พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ อย่าแชร์ข้อมูลเหล่านี้ โดยไม่ตรวจสอบ ยืนยันว่าทหารไทยยังปฏิบัติภารกิจอยู่หน้าแนวตลอดแนวชายแดน

ติดหมายจับหน้าด่าสระแก้ล่า‘ก๊ก อาน’

ความเคลื่อนไหวการไล่ล่าจับกุมนายก๊ก อาน เจ้าพ่อกาสิโน คนสนิท ฮุน เซน อดีตนายกฯกัมพูชา ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว บริเวณจุดตรวจบุคคลประจำยานพาหนะ ด่าน ตม.อรัญประเทศ เจ้าหน้าที่ตม.จ.สระแก้ว นำภาพนายก๊ก อาน สว.กัมพูชา คนสนิทสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ถูก บช.สอท.ขออนุมัติศาลออกหมายจับ ข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ และฟอกเงิน มาติดไว้ภายในจุดตรวจบุคคลประจำยานพาหนะ จุดตรวจหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) และจุดตรวจหนังสือเดินทางท้องถิ่น(บอเดอร์พาส) ทั้งขาเข้าและขาออกราชอาณาจักร ด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยระบุว่าภาพดังกล่าว ”เป็นบุคคลที่มีหมายจับจากศาลไทย ให้ความระมัดระวังอย่างยิ่งยวด“

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ์ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ตม.จว.สระแก้วทุกนายให้เพิ่มความระมัดระวังและตรวจตราเข้มงวด โดยเฉพาะบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกผ่านด่าน ตม.อรัญประเทศ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม หากพบบุคคลเป้าหมายให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.สระแก้วทันที เนื่องจากเป็นบุคคลสำคัญที่ศาลอนุมัติหมายจับแล้ว อีกทั้ง ต้องระวังการกระทบกระทั่งหรือไม่เข้าใจจากฝ่ายกัมพูชาด้วย

กอ.รมน.ลุย5ยุทธศาสตร์ปราบแก๊งคอลฯ

ด้านพล.ต.ธนาธิป สว่างแสง รองผู้อำนวยการสำนักกิจการมวลชนและสารนิเทศ กอ.รมน.ในฐานะคณะทำงาน ฉก.88 เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยคุกคามอันเกิดจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนและความมั่นคงของประเทศอย่างกว้างขวางโดยรัฐได้กำหนดให้เป็นนโยบายเร่งด่วนในการแก้ปัญหา เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและประชาชน

โดยพล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร.และผอ.ศตคม.ตร. ผอ.ฉก.88 พร้อมหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจ UNODC แถลงผลการดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ โดยปฏิบัติการ ล่าสุดได้เข้าตรวจค้นทลายเครือข่าย ก๊ก อาน 20 จุดในกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ-ชลบุรี ยึดเงินสด 27 ล้านบาท รถหรูและทรัพย์สินรวมกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมนำผู้ทำผิดดำเนินคดีตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ศปอส.ตร.ร่วมกับศตคม.ตร. ฉก.88 และ UNODC ดำเนินยุทธศาสตร์ (I 2LAI) เพื่อเร่งปราบปรามเครือข่ายเหล่านี้กำหนดยุทธศาสตร์ 5 ด้าน ประกอบด้วย 1. Infrastructure: การทำลายโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต 2.Logistics: ตัดวงจรการนำพา เช่น เพจโฆษณาหางาน บัญชีม้า ขบวนการข้ามแดน 3.Law Enforcement: เร่งบังคับใช้กฎหมายและยึดทรัพย์ มุ่งเป้าผู้บงการและเครือข่ายที่ให้การสนับสนุน 4.AI: ใช้เทคโนโลยีควบคุมป้องกันไม่ให้ไทยเป็นทางผ่านหรือฐานปฏิบัติการ 5. International Community: ผนึกกำลังประชาคมโลก สร้างเครือข่ายความร่วมมือปราบปรามอย่างจริงจัง เพื่อเร่งรัดและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยตั้งศูนย์ War Room ที่ สตช.

ในขณะเดียวกัน กอ.รมน. โดย ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กอ.รมน. ในฐานะหน่วยงานด้านความมั่นคงภายในด้านอาชญกรรมข้ามชาติ ได้ร่วมขับเคลื่อนภารกิจเชิงรุกควบคู่กัน โดยมุ่งเน้นไปที่การ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันและลดโอกาสการตกเป็นเหยื่อของประชาชน โดยดำเนินการ อบรม สร้างการรับรู้ และเพิ่มพูนความรู้ด้านภัยคุกคามออนไลน์ ให้กับประชาชน และภาคประชาสังคมอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันภัยออนไลน์ และสามารถมีส่วนร่วมเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแส และป้องกันตนเอง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จีนขยับ!จี้เขมร ปราบแก๊งคอลฯให้สิ้น

กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ หลังนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน พบกับ รัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชา ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนที่มาเลเซีย โดยนายหวัง อี้ เน้นย้ำกับฝ่ายกัมพูชา ถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างมาตรการความมั่นคง เพื่อคุ้มครองชาวจีนและชาวกัมพูชา และเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อ “กำจัดเนื้องอก” ของอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น การพนันออนไลน์ ฉ้อโกงผ่านสายโทรศัพท์ การปลอมแปลง และการลักลอบขนของผิดกฎหมาย

เขมรฉะไทยสร้างวัดภูม่านฟ้าก็อปปี้นครวัด

อีกด้านหนึ่งเมื่อวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 47 วันที่ 5 ในช่วงบ่ายของการประชุม เป็นการพิจารณารายงานสถานภาพการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลก ภูมิภาคเอเชียเเละแปซิฟิก ซึ่งมีวาระเกี่ยวกับแหล่งมรดกโลก ปราสาทนครวัด

นางเฟือง สกุณา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชากล่าวถ้อยแถลงโดยหยิบยกประเด็นวัดภูม่านฟ้า อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ว่า เป็นการลอกเลียนแบบนครวัดอย่างไร้จริยธรรม ซึ่งเป็นการทำลายคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากลของแหล่งมรดกโลก ปราสาทนครวัด และเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่อันตรายต่อแหล่งมรดกโลก กัมพูชาจึงเรียกร้องให้ยูเนสโกและองค์การที่ปรึกษาตรวจสอบการกระทำดังกล่าวของไทย

ทีมไทยแลนด์สวนหมัดได้แบบจากวัดไทย

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว หัวหน้าคณะผู้แทนไทยกล่าวถ้อยแถลงโต้ตอบว่า เบื้องต้นไม่ประสงค์จะโต้ตอบแต่จำเป็นต้องชี้แจงทำความเข้าใจต่อที่ประชุม ในประเด็นเรื่องวัดภูม่านฟ้า ที่ฝ่ายกัมพูชาหยิบยก ว่าราชอาณาจักรไทยเชื่อมั่นว่ามรดกทางวัฒนธรรมควรเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน มิใช่นำมาซึ่งความแบ่งแยก และฝ่ายไทยรู้สึกประหลาดใจและผิดหวังต่อคำกล่าวของหัวหน้าคณะผู้แทนกัมพูชาว่า การก่อสร้างวัดภูม่านฟ้าเป็นการลอกเลียนแบบปราสาทนครวัด และเห็นว่าเวทีมรดกโลกเป็นเวทีที่ไม่เหมาะสมที่จะหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาหารือ อีกทั้ง ยังมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองที่แอบแฝง

นายสีหศักดิ์กล่าวต่อว่า วัดภูม่านฟ้าเป็นวัดในพุทธศาสนาที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมในพุทธศาสนาที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากศิลปะและสถาปัตยกรรมจากแหล่งโบราณสถานต่างๆ ในประเทศไทย ดังนั้น จึงไม่ใช่การลอกเลียนแบบปราสาทนครวัด อย่างไรก็ตาม ไทยพร้อมจะปรึกษาหารือร่วมกับกัมพูชาในประเด็นดังกล่าว รวมถึงประเด็นอื่นบนพื้นฐานของการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะเมื่อผู้นำของไทยและกัมพูชาได้ตกลงจัดคณะทำงานร่วมในประเด็นนี้

นอกจากนี้ คณะผู้แทนไทยทราบว่าคณะผู้แทนกัมพูชามีความพยายาม lobby คณะผู้แทนหลาย ประเทศในประเด็นนี้ รวมถึง มีความพยายามอย่างสูงที่จะผลักดันประเด็นนี้กับยูเนสโกและคณะกรรมการมรดกโลก แต่ไม่ได้รับการสนับสนุน ซึ่งฝ่ายต่างๆเห็นว่าเป็นประเด็นที่ควรหารือระดับทวิภาคีมากกว่าที่จะนำมาหารือในเวทีคณะกรรมการมรดกโลก

ไวยาวัจกรวัดโต้ใช้ภูมิปัญญาไทย

ในประเด็นนี้ นายพีระวัฒน์ จันทสิทธิ์ ไวยาวัจกรวัดภูม่านฟ้า ออกมาระบุว่าก่อนหน้านี้ประเทศกัมพูชาเคยทักท้วงมาแล้ว แต่จากการศึกษาข้อมูลการสร้างวัดภูม่านฟ้าแล้ว ไม่ได้มีการลอกเลียนแบบของปราสาทนครวัดของกัมพูชา การสร้างทั้งหมดเป็นภูมิปัญญาของคนไทยและพระในประเทศไทย โดยจำลองมาจากปราสาทหินพนมรุ้ง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ และปราสาทหินพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา การกล่าวอ้างดังกล่าวของประเทศกัมพูชา อาจมีความคลาดเคลื่อนเพราะโดนปัญหารุมเร้าหรือไม่ จนคิดอะไรไม่ออก

เช่นเดียวกับ นายวี นักท่องเที่ยวจากจ.มหาสารคามกล่าวว่า วัดภูม่านฟ้า เป็นสถาปัตยกรรมคล้ายคลึงกับทางขอมมีความเป็นพุทธและเป็นแบบปัจจุบัน เป็นทั้งปัจจุบันและอนาคตคือ ต้องใช้สถานที่แห่งนี้อีกอย่างน้อย 200 ปีแล้วจะไปลอกเลียนแบบใครมาจากไหนได้

คนเขมรทนอดอยากไม่ไหว หนีเข้าไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศชายแดนไทย-กัมพูชา พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กกล.บูรพา สั่งนำกำลังพล ร้อย ทพ.1201 ร่วมกับพ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เป็นชุดปฏิบัติการร่วมกองกำลังบูรพาออกปฏิบัติการลาดตระเวนเข้ม ป้องกันสกัดกั้นการลักลอบเข้าออกเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติ บริเวณชายแดนท้ายหมู่บ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พื้นที่เสี่ยงและล่อแหลมต่อการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย ตามนโยบายคุมเข้มชายแดนไทย-กัมพูชา ของ แม่ทัพภาคที่1 และ ผบ.กกล.บูรพา ต่อมาเจ้าหน้าที่สกัดจับชายชาวกัมพูชาชื่อนายที เรีย อายุ 30 ปี ขณะมุดรั้วลวดหนามชายแดนมาจากฝั่งปอยเปต เข้ามาในประเทศไทย บริเวณทิศเหนือตลาดโรงเกลือ พื้นที่บ้านดงงู ต.ป่าไร่ ตรวจสอบไม่มีหนังสือเดินทาง หรือเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทย

นายที เรีย อ้างว่าเดิมทำงานรับจ้างทั่วไปอยู่ในตลาดโรงเกลือ ฝั่งไทย โดยใช้หนังสือเดินทางท้องถิ่นกัมพูชา (บอเดอร์พาสกัมพูชา) ผ่านเข้า ออก ด่าน ตม.อรัญประเทศฯ กระทั่งเกิดเหตุการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาที่ทำงานในไทยเดินทางกลับกัมพูชา โดยรัฐบาลกัมพูชาเตรียมงานไว้รองรับ ทำให้ตนตัดสินใจทิ้งงานรับจ้างในตลาดโรงเกลือ กลับภูมิลำเนาในกัมพูชา แต่เมื่อไปถึงไม่เหมือนที่รัฐบาลกัมพูชาประกาศไว้ ตนอยู่บ้านเกือบเดือน ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีงานทำ เงินไม่มี ต้องอยู่อย่างอดอยาก ทนไม่ไหวจึงตัดสินใจลักลอบข้ามแดนเพื่อกลับเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ อีกครั้งแต่ก็มาถูกทหารพรานไทยจับกุมได้ ก่อนคุมตัวส่ง สภ.คลองลึกฯดำเนินคดี