ตร.จับหนุ่มผสมยาเค
ใส่‘กาแฟ-คอลลาเจน’
ภาค5ยึดยาบ้าซุกรถ
ของกลาง1.6แสนเม็ด
ตำรวจ 191 รวบหนุ่มตระเวนขาย “ยาเค ผสมกาแฟ-คอลลาเจน” ให้ลูกค้าสายปาร์ตี้ยึดของกลางอื้อ อีกคดีตร.สืบภาค 5 สนธิกำลัง จับหนุ่มขนยาบ้า 1.6 แสนเม็ดซุกถังน้ำมันรถกระบะ ผ่านชายแดน จ.เชียงราย
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) หรือตำรวจ 191พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ.มอบหมายให้พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ.นำกำลังจับกุม นายชนาธิป (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี พร้อมของกลาง ยาอี 5,000 เม็ด, เคตามีน 700 กรัม, เคตามีนผสมผงกาแฟสำเร็จรูป 600 ซอง เคตามีนผสมผงคอลลาเจน 120 ซอง, เครื่องปั่นผงละเอียด, เครื่องซีลสุญญากาศ, เครื่องชั่งตวงดิจิทัล, ผงคอลลาเจนสำเร็จรูปและซองเปล่า, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง, อาวุธปืนสั้นขนาด 6.35 พร้อมกระสุน 13 นัด, รถยนต์และเงินสด 180,000 บาท จับกุมได้ที่บ้านพัก ภายในหมู่บ้านสหกรณ์เคหสถาน 4 ถนนเสรีไทย ซอย 57 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.
พล.ต.ต.ภานพกล่าวว่า การจับกุมดังกล่าว เนื่องจากบก.สปพ.สืบทราบความเคลื่อนไหวของเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ กทม.โดยพบข้อมูลว่า นายชนาธิป มีพฤติกรรมลักลอบส่งยาเสพติดในย่านรามอินทรา ซึ่งจะใช้รถกระบะ ทะเบียน 5 กร 7040 กทม.ตระเวนส่งยาเสพติดจึงสืบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติมจนทราบว่า นายชนาธิปพักอาศัยและเก็บซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในบ้านเช่าหลังหนึ่งภายในหมู่บ้านสหกรณ์ถนนเสรีไทย จึงวางแผนติดตามและเข้าจับกุมตัว พร้อมของกลางยาเสพติดที่ซุกซ่อนไว้ในบ้านดังกล่าว
พล.ต.ต.ภานพ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่ารับจ้างเก็บซุกซ่อนและส่งยาเสพติดให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 ถึงช่วงต้นปี 2566ได้เริ่มผสมเคตามีนในกาแฟสำเร็จรูปและคอลลาเจนตามความต้องการของลูกค้าสายปาร์ตี้ โดยหาซื้อเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับการใช้บดผสมและแพ็คยาเสพติด พร้อมกับเช่าบ้านหลังดังกล่าวใช้เป็นสถานที่ผสมยาเสพติด ก่อนนำส่งขายนักเที่ยวในราคาซองละ 500 บาท เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี), มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตและเพื่อการค้า และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ สำหรับยาเสพติดที่พบมีการผสมกับกาแฟและคอลลาเจนทางเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่แท้จริงไม่ทราบและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ซึ่งกรณีดังกล่าวจะรู้กันเฉพาะในกลุ่มนักเสพ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผลถึงแหล่งที่มาในการนำเคตามีนมาใช้เป็นส่วนผสมว่ามาจากแหล่งใด
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังตำรวจ บก.สส.ภ.5 ร่วมกับตำรวจ สภ.เชียงของ และทหารชุด ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง และหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยลำน้ำโขง (นรข.) เชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.วรพงษ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูลผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ ตงศิริผกก.สภ.เชียงของ พ.อ.ไพรัช ศรีไชยวาล ผบ.ฉก.ทพ.31น.อ.ศราวุธ เถื่อนบุญ ผบ.นรข.เขตเชียงราย เข้าจับกุมนายมานพ อายุ 35 ปี ชาว ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาบ้า 80 ห่อ รวมประมาณ 160,000 เม็ด ซุกซ่อนใต้ถังน้ำมันรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียนเชียงราย
การจับกุมครั้งนี้เนื่องจากตำรวจ บก.สส.ภ.5สืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ชายแดน ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เข้ามายัง อ.เชียงของ จึงออกหาข่าวจนกระทั่งทราบว่ามีกลุ่มขบวนการขนยาเสพติดจะใช้เส้นทางผ่านมายังพื้นที่บ้านท่าเจริญ จึงสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณด่านตรวจยาเสพติดท่าเจริญ พื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เชียงของกระทั่งพบรถต้องสงสัยขับผ่านมาจึงแสดงตัวเพื่อตรวจสอบ โดยทราบชื่อคนขับคือนายมานพ จากการตรวจสอบภายในรถและท้ายกระบะไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่นายมานพ ท่าทางมีพิรุธให้การวกวนเจ้าหน้าที่จึงนำรถคันดังกล่าวไปตรวจสอบอย่างละเอียดโดยให้ทางศุลกากรเชียงของ ใช้เครื่องเอกซเรย์รถคันดังกล่าว พบก้อนวัตถุสงสัยอยู่ในตัวถังน้ำมันจึงเปิดออกดูเพื่อพิสูจน์ ก็พบวัตถุเป็นก้อน80 ห่อ ภายในบรรจุยาบ้า ประมาณ 160,000 เม็ด
สอบสวนเบื้องต้นนายมานพ ให้การว่าได้ลำเลียงยาเสพติดดังกล่าวมาจากพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง เพื่อไปส่งที่ภูชี้ฟ้า อ.เทิง จ.เชียงราย โดยจะมีการนัดหมายจุดที่จะส่งมอบกับผู้ว่าจ้างอีกครั้งเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับควบคุมตัวนายมานพ ไว้ดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี