ผู้การกาฬสินธุ์สั่งเด้งนายตำรวจยศ "พ.ต.ท." หลังถูกญาติผู้เสียชีวิตร้องเรียนกล่าวหาเรียกรับเงิน 5 หมื่นบาทค่าทำเอกสาร พ.ร.บ.คดีอุบัติเหตุรถ จยย.ชนท้ายรถไถพ่วงหวังเอาเงินประกัน สุดท้ายรถไถพ่วงไม่มี พ.ร.บ.ชวดเงินเบี้ยประกัน ย้ำหากผิดจริงดำเนินการขั้นเด็ดขาด
กรณีชาวบ้าน ต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ ร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ว่า ถูกนายตำรวจมีตำแหน่งเป็นพนักงานสอบสวนยศ พ.ต.ท.ในโรงพักแห่งหนึ่งเรียกรับเงินจำนวน 5 หมื่นบาทเพื่อเป็นค่าดำเนินการเอกสาร พ.ร.บ.คดีอุบัติเหตุเอาเงินกับบริษัทประกันภัย ล่าสุดวันที่ 27 ก.พ.66 พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ในฐานะดูแลรับผิดชอบงานด้านการสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ร่วมกันตรวจสอบเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งการให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเบื้องต้นได้รับรายงานและทราบจากทางสื่อแล้ว จากการตรวจสอบไปยัง ผกก.ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อช่วงเวลา 02.00 วันที่ 4 ก.พ.66 ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถไถพ่วงทำให้คนขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต ทราบชื่อคือนายเกียรติณรงค์ อายุ 24 ปีชาว ต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ และได้สอบถามไปยังหัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งตรวจสอบแล้วปรากฏว่ารถจักรยานยนต์มี พ.ร.บ. ส่วนรถไถพ่วงไม่มี พ.ร.บ.และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้เรียกเงินกับญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 5 หมื่นบาท อ้างว่าจะเอามาเพื่อดำเนินการติดตามเกี่ยวกับหลักฐานในการรับเงินจากบริษัทประกันของจาก พ.ร.บ.รถไถ แต่เมื่อสอบสวนไปแล้วปรากฏว่ารถไถกลับไม่มี พ.ร.บ.จึงไม่สามารถเรียกเงินจากบริษัทประกันได้ ทำให้เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งได้สอบถามไปยังเจ้าตัวแล้วก็ยอมรับว่าได้เอาเงินกับญาติผู้เสียชีวิตจริง และจะนัดคืนให้ในวันพุธที่ 1 มีนาคมที่จะถึงนี้เพราะทำเรื่องเบิกค่าประกันไม่ได้ทำให้ญาติผู้เสียชีวิตเดือดร้อนและเข้าขอความเป็นธรรมดังกล่าว
พล.ต.ต.สุวรรณ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนได้ออกคำสั่งย้ายนายตำรวจยศ พ.ต.ท.คนดังกล่าวมาช่วยราชการที่ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์อย่างไม่มีกำหนด จนกว่าผลการสอบสวนจะแล้วเสร็จ พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมี พ.ต.อ.สมพงศ์ มั่นหมาย รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เป็นหัวหน้าสอบสวน ซึ่งหากสอบแล้วพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดจริงก็จะตั้งกรรมการสอบวินัยต่อไปและดำเนินการขั้นเด็ดขาด ทั้งนี้ ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ในส่วนเรื่องของคดีอาญานั้นก็ต้องให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งได้เดินทางไปร้องเรียนขอความเป็นธรรมยังหน่วยงานต่างๆ ที่กรุงเทพฯ โดยนางจันทิวาพร อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นน้าของผู้เสียชีวิต ระบุว่าอุบัติเหตุดังกล่าวผู้เสียชีวิตคือนายเกียรติณรงค์ ซึ่งเป็นหลานชายของตน วันนั้นกลับจากทำงานรถจักรยานยนต์ชนท้ายกับรถไถพ่วง หลังเกิดเหตุนายตำรวจ ซึ่งเป็นพนักสอบสวนเจ้าของคดี บอกว่าจะดำเนินการเรื่องเอกสาร พ.ร.บ. เพื่อที่จะเอาเงินกับบริษัทประกันของรถไถพ่วง แต่ต้องเอาเงินมาให้ 5 หมื่นบาทเป็นค่าดำเนินการ
นางจันทิวาพร ระบุอีกว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 8 ก.พ.66 ญาติของผู้เสียชีวิตจึงนำเงินไปให้ตำรวจจำนวน 2 หมื่นบาท และวันที่ 9 ก.พ.66 อีก 3 หมื่นบาท ต่อมาตำรวจคนดังกล่าวกลับบอกว่ารถไถพ่วงไม่มี พ.ร.บ.จึงไม่สามารถเอาเงินกับบริษัทประกันได้ ทางญาติพยายามติดต่อของเงินคืนเพราะนอกจากจะมีคนเสียชีวิตแล้วยังถูกเอาเงินไปอีก รวมทั้งยังไม่ได้รับการติดต่อจากคู่กรณีและไม่ได้รับเงินคืนจึงได้เข้าร้องขอเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว เพื่อดำเนินการกับนายตำรวจคนนี้และให้เอาเงินมาคืน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี