แม่เด็กวัย 8 เดือนขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย คราวนี้บอกโยนร่างลูกลงไปในน้ำ ไม่ได้นำไปวางไว้ริมตลิ่ง ขอโทษทุกฝ่ายที่ทำให้วุ่นวาย ขอโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ อยากกลับไปเรียนหนังสือ เผยชีวิตเหมือนที่เคยพูดไว้ไม่เคยมีความฝัน
28 ก.พ. 66 ความคืบหน้าคดีการหายตัวปริศนาของ"น้องต่อ" อายุ 8 เดือน หลังแม่ของเด็กรับสารภาพแล้วว่าทำลูกชายพลัดตกจากมือ เสียชีวิต ก่อนเอาลูกไปวางไว้ริมตลิ่ง โดยล่าสุดน.ส.นิ่ม ยอมรับว่า จริงๆแล้วไม่ได้นำลูกไปวางไว้ริมคลอง แต่โยนร่างลูกลงไปในน้ำ ภายในหมู่บ้านพื้นที่ ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ที่ห่างจากบ้านพักออกไปประมาณ 100 เมตร
โดยน.ส.นิ่ม แถลงข่าวเปิดใจครั้งสุดท้ายว่า จากนี้ไปขอให้สื่อมวลชนไปสอบถามความคืบหน้าของคดีกับทางตำรวจ ไม่อยากให้มายุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของตนอีกเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว หลังจากที่ผ่านมาเผชิญกับคำถามที่แม้จะไม่ใช่การคุกคามรุนแรง แต่ก็ทำให้ตนรู้สึกไม่สบายใจ รวมถึงมีการมาเฝ้ากันถึงหน้าบ้าน ขณะที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ซึ่งระดมกำลังกันค้นหาร่างของเด็กดังกล่าว
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าได้โยนร่างของลูกลงไปในคูน้ำที่มีป่าไผ่อยู่ และร่างของน้องต่อก็จมลงไปในน้ำ สภาพศพของน้องต่อสวมเสื้อลายขวางสีขาว-ดำเหมือนทางม้าลาย ส่วนท่อนล่างใส่เพียงผ้าอ้อมยี่ห้อโมฟิก ไซส์เอ็ม ทั้งนี้ ตนทราบจากข่าวว่าล่าสุดมีการค้นพบผ้าอ้อมระหว่างการค้นหา แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นของน้องต่อหรือไม่ และสาเหตุที่นำร่างของลูกไปโยนทิ้งเพราะรู้สึกกลัวถูกด่า ตามที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าลูกหงายหลัง สุดท้ายคือถ้าเจอร่างน้องต่อเก็อยากจะนำมาทำบุญ และอยากขอโทษที่ทำอะไรโดยไม่คิดให้ถี่ถ้วน อยากขอโอกาสสังคม อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่
“หนูอยากขอเริ่มชีวิต ไม่ต้องมาถามอะไรแล้ว อยากมีความเป็นส่วนตัวของทางครอบครัว อยากกลับไปเรียนหนังสือ อายุ 17 แล้ว ส่วนบทสัมภาษณ์ของมูลนิธิกระจกเงา ก็ตามนั้นเลย ไม่กล้าฝันอยากทำงานที่เป็นทางการ เป็นตำรวจ เป็นคุณหมอ อยากมีรายได้ใช้ก็พอแล้ว ทางครอบครัวหนูก็ไม่ได้มีเงินส่งไปไกลขนาดนั้น ส่วนเยาวชนที่รุ่นราวคราวเดียวกันแล้วอาจจะมีปัญหาเจอทางตัน อยากให้ทำอะไรก็คิดให้ดี ไม่ต้องกลัวสิ่งที่จะเกิดมาตามหลัง บทเรียนนี้ใหญ่ที่สุดในชีวิต” น.ส.นิ่ม กล่าว
น.ส.นิ่ม กล่าวต่อไปว่า ส่วนการสอบสวนของตำรวจ แม้ไม่ถึงขั้นด่าทอหรือใช้คำพูดไม่ดี แต่การที่เจ้าหน้าที่ซึ่งมาสอบปากคำเป็นผู้ชาย ใช้คำพูดแบบผู้ชาย เป็นเรื่องของน้ำเสียง รวมถึงใช้คำถามเหมือนที่ถามผู้ใหญ่ ก็ทำให้ตนรู้สึกกลัว ย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตนทำคนเดียว และยังไม่ได้บอกกับนายพุดซึ่งเป็นสามี แต่หากเขารู้เชื่อว่าก็คงเสียใจ ทั้งนี้ ตนต้องขอโทษทุกคนที่ทำให้เป็นเรื่องวุ่นวายขนาดนี้
ด้านบิดาของ น.ส.นิ่ม กล่าวว่า ถึงพูดอะไรไปแต่เรื่องมันก็เสียไปแล้ว สื่อบางสำนักกล่าวหาว่าพ่อมีอะไรกับลูก เรื่องนี้ตนรับไม่ได้ แต่กรณีเพื่อนพ่อมีอะไรกับลูก เรื่องนี้ยอมรับว่าเป็นความจริง อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากมีเรื่องมีราว จึงไม่คิดดำเนินคดีกับสื่อดังกล่าว แต่ขอให้ช่วยแก้ข่าวให้ตนด้วยเพื่อให้ตนสบายใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี