หนุ่มนักธุรกิจชาวจีน ร้องทนายดังถูกทำร้ายเกรงคดีไม่คืบ
ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ วันที่ 9 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา นายโทนี (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เดินทางเข้าร้องเรียนกับนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ว่าเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 21.00 น. ได้ไปนั่งดื่มกินรับประทานอาหารกับทางคู่กรณี ซึ่งเป็นคนจีน และเพื่อนอีก 2 คน รวม 4 คน ที่ร้านอาหารย่านแขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
หลังรับประทานอาหารเสร็จ เวลาประมาณ 22.00 น. ทั้งหมดได้เตรียมเดินทางกลับที่พักโดยในขณะนั้นคู่กรณี มีอาการมึนเมามาก นายโทนี จึงเกิดความเป็นห่วง และบอกกับคู่กรณีว่าให้เรียกรถมารับดีกว่า หรือไม่ก็โทรให้ใครมารับจะปลอดภัยกว่ากลับตามลำพัง
จากนั้นทางคู่กรณี จึงได้มีการโทรศัพท์ไปหาผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งผู้เสียหายไม่ทราบชื่อสกุล และไม่ ทราบว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร ต่อมาผู้หญิงคนดังกล่าวได้มาถึงผู้เสียหายได้มีการทักทายตามปกติ โดยมีการชนกำปั้นกันกับผู้หญิงคนดังกล่าว ซึ่งเป็นประเพณีของคนจีน ไม่ได้มีการแตะเนื้อต้องตัวหรือกระทำการใดอันไม่ เหมาะสมกับผู้หญิงคนดังกล่าวเลย และผู้เสียหายได้พูดชื่นชมผู้หญิงคนดังกล่าวในทำนองว่าหน้าตาดี ซึ่งตามประเพณีของจีน ถือเป็นเรื่องที่ดีในการพบปะเพื่อนใหม่
หลังจากนั้นคู่กรณีได้หยิบวัตถุที่มีลักษณะเป็นของแข็ง ซึ่งผู้เสียหายคาดว่าอาจจะเป็นจานกระเบื้อง ตีที่บริเวณศีรษะ ด้านซ้ายของผู้เสียหายอย่างแรง และได้พยายามทำร้ายร่างกายผู้เสียหายซ้ำอีก แต่เพื่อนที่ไปด้วยกันได้ห้ามปราม และแยกผู้เสียหายออกมา จากการกระทำดังกล่าวของคู่กรณี เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ ศีรษะแตก ซึ่งผู้เสียหายเองก็ไม่ทราบว่าการลงมือทำร้ายของคู่กรณีนั้นมาจากสาเหตุอะไรกันแน่
จากนั้นผู้เสียหาย ไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน เพื่อรักษาบาดแผล และตรวจดูอาการบาดเจ็บ แต่ปรากฏว่าคู่กรณีได้บุกตามมาในห้องปฐมพยาบาล และได้ใช้วัตถุของแข็ง ซึ่งน่าจะเป็นกระบอกไฟฉาย ตีเข้าที่ศีรษะด้านหน้าของผู้เสียหายอย่างแรง จนผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกเป็นครั้งที่ 2 ต้องเย็บแผลกว่า 40 เข็ม เนื่องจากบาดแผลกว้างและเป็นจุดที่อันตรายต่อชีวิต
หลังเกิดเหตุผู้เสียหาย กังวลมากเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและร่างกาย โดยหลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายได้เดินทางกลับไปรักษาตัวที่ประเทศสิงคโปร์ และยังรู้สึกหวาดกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยทุกครั้งที่บินเข้ามายังประเทศไทย ปัจจุบันคดีอยู่ในอำนาจสอบสวนของพนักงานสอบสวนสน.แสมดำ และสน.ท่าข้าม เกี่ยวเนื่องกัน
โดยคดีนี้คู่กรณีซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวจีนมีฐานะร่ำรวยและรู้จักกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน และมีนายตำรวจระดับยศนายพล พยายามใช้เส้นสายในการแทรกแซงคดีอีกด้วย ผู้เสี่ยหายเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและเกรงว่าสำนวนและพยานหลักฐานจะอ่อน จึงมาร้องทนายรณรงค์ เพื่อขอคำปรึกษาและแนะนำแนวทางในการต่อสู้คดี โดยวันที่ 10 มีนาคม 2566 ทนายรณรงค์ จะพาผู้เสียหายไปร้องขอความเป็นธรรม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี