จับ22เมียนมาหนีภัยสงคราม  รับจ๊อบขนยาเสพติด  หาค่ารถไปมาเลเซีย

จับ22เมียนมาหนีภัยสงคราม รับจ๊อบขนยาเสพติด หาค่ารถไปมาเลเซีย

วันอาทิตย์ ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2566, 06.00 น.

จับ22เมียนมาหนีภัยสงคราม

รับจ๊อบขนยาเสพติด

หาค่ารถไปมาเลเซีย

กองกำลังสุรสีห์ คุมตัว 22 เมียนมา ทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนหนีภัยสงคราม สบช่องรับจ๊อบขนยาเสพติดเข้าไทย แลกกับค่าเดินทางไปยังมาเลเซีย

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 10 มีนาคม 66 พันเอก พรรณศักดิ์ เพรียวพานิช รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันออกลาดตระเวนสกัดจับบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์ ที่แอบลักลอบข้ามชายแดนไทย ผ่านแนวเทือกเขาตะนาวศรี ตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีบุคคลต่างด้าวแอบลักลอบเข้าประเทศพร้อมกับยาเสพติดจำนวนหนึ่ง เพื่อไปขายแรงงานในประเทศมาเลเซีย


ต่อมาได้พบกลุ่มบุคคลต่างด้าวจำนวนหนึ่งกำลังแบกสะพายกระเป๋าสัมภาระเดินเท้าแอบลักลอบข้ามแดนไทย บริเวณช่องทางธรรมชาติ หมู่ 5 บ้านหุบผึ้ง ตำบลห้วยทราย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมทั้งหมดจำนวน 22 คน แบ่งเป็นชาย 12 คนหญิง 7 คน ผู้นำพาเป็นชายอีก 3 คน โดยหนึ่งในผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ได้เดินทางมาจากในหลายเมืองและหลายจังหวัดต่างๆของประเทศเมียนมาร์ เนื่องจากต้องหลบหนีภัยสงครามจากการสู้รบของทหารเมียนมาร์ในประเทศ ทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพกรีดยางและทำงานได้ จึงได้พากันทิ้งบ้านเกิดของตนเองไปหาทำงานในประเทศมาเลเซียเพื่อความอยู่รอดและหาสถานที่ปลอดภัยให้กับตัวเอง และเมื่อเหตุการณ์สงบลงเมื่อไรจึงค่อยเดินทางกลับบ้านเกิดของตนเองในประเทศเมียนมาร์ทั้งหมด โดยได้เดินทางมาพักรวมพลที่บริเวณบ้านมูด่องฝั่งเมียนมาร์ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากชายแดนไทยมากนัก จากนั้นจึงพากันออกเดินเท้ามาตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อรอให้นายหน้ามารับ ซึ่งการเดินทางในแต่ละครั้งต้องเสียค่าจ้างในการเดินทางครั้งละ 40,000 บาท ให้กับนายหน้า โดยแบ่งจ่ายเป็น 2 งวด งวดแรกก่อนออกเดินทางจ่าย 20,000 บาทที่ฝั่งพม่า งวดที่ 2 อีก 20000 บาท เมื่อไปถึงจุดหมายปลายทางแล้ว แต่มาถูกจับได้เสียก่อน**

จากการตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระพบว่าหนึ่งในผู้ต้องหาที่หลบหนีเข้าเมืองมาพร้อมกันมียาเสพติดซุกซ่อนมาในกระเป๋าเป้เดินทางด้วย เป็นยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระป๋องแป้ง และยาไอซ์อีกจำนวน 1.75 กิโลกรัม บรรจุในถุงสีดำทราบชื่อ นายเอาไป๋ อายุ 36 ปี โดยให้การยอมรับสารภาพว่าได้ขนยาเสพติดมาจากจังหวัดปะรอ ฝั่งเมียนมาร์ และนำเอาไปส่งที่บริเวณชายแดนไทย-มาเลย์ เพื่อแลกกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ต้องเสียให้กับนายหน้า เนื่องจากตนเองบ้านถูกไฟเผาไหม้ทำให้ไม่มีเงินในการเดินทาง จึงได้รับจ้างขนยาเสพติดเป็นการแลกเปลี่ยน เจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำประวัติและบันทึกจับกุมนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองวาฬ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top