วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
อ่านโดยพลัน!‘บิ๊กอู๊ด’เปิดสถิติภัยออนไลน์ ทั้งปีดูดเงินกว่า 3 หมื่นล้าน แนะวิธีป้องกัน

อ่านโดยพลัน!‘บิ๊กอู๊ด’เปิดสถิติภัยออนไลน์ ทั้งปีดูดเงินกว่า 3 หมื่นล้าน แนะวิธีป้องกัน

วันอังคาร ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2566, 13.23 น.
Tag : แอปดูดเงิน บิ๊กอู๊ด ภัยออนไลน์ ดูดเงิน
  •  

อ่านโดยพลัน!‘บิ๊กอู๊ด’เปิดสถิติภัยออนไลน์ ทั้งปีดูดเงินกว่า 3 หมื่นล้าน แนะวิธีป้องกัน

14 มีนาคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร./หัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมด้วยคณะทำงาน แถลงข่าว เกี่ยวกับสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ในรอบปีที่ผ่านมา และภัยออนไลน์ที่เกิดขึ้นใหม่ในรอบสัปดาห์ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้มีภูมิป้องกันภัยออนไลน์ ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เร่งรัดป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะภัยออนไลน์ ที่เกิดขึ้น และสร้างความตระหนักรู้เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันภัยออนไลน์ให้แก่ประชาชน


ทั้งนี้ มีรายละเอียดในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2565-วันที่ 11 มี.ค.2566 พบว่ามีการรับแจ้งความคดีออนไลน์ 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า 73,252 เคส/955,427,866 บาท 2.คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม  29,945 เคส/3,323,194,517 บาท 3. คดีหลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน   24,821 เคส/1,034,104,918 บาท 4. คดีหลอกลวงทางโทรศัพท์ที่เป็นขบวนการ (call center) 20,013 เคส/3,505,338,808 บาท 5. คดีหลอกให้ลงทุน(ที่ไม่เข้าลักษณะฉ้อโกงประชาชน)16,460 เคส/7,661,884,637 บาท 

6.คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า(เป็นขบวนการ)8,036 เคส/57,293,969 บาท 7. คดีหลอกเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน 7,285 เคส/  254,219,605 บาท 8.คดีหลอกให้โอนเงิน(ไม่เป็นขบวนการ) 5,286 เคส/  369,123,851 บาท 9.คดีหลอกให้รักแล้วลงทุน 3,201 เคส/  1,556,536,563 บาท และ 10.หมิ่นประมาท ดูหมิ่น 3,171 เคส/  11,641,372 บาท รวมทั้งปีมีผู้แจ้งความ 218,210 เคส มูลค่าความเสียหายรวม 31,579,305,746 บาท

ขณะที่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 5-11 มี.ค.2566 พบมีการรับแจ้งความคดีออนไลน์  5 อันดับแรก   ได้แก่ 1.คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า 2,184 เคส/19,075,526.61 บาท  2.คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม 758 เคส/87,227,644.38 บาท 3.คดีหลอกลวงทางโทรศัพท์ที่เป็นขบวนการ(call center)739 เคส/87,227,644.38  บาท  4.คดีหลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน 576 เคส/  23,697,409.86 บาท  และ 5. คดีหลอกเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน 312 เคส/8,273,770.68  บาท รวมทั้งสัปดาห์มีผู้แจ้งความ  5,787  เคส/มูลค่าความเสียหายรวม 377,284,886  บาท 

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า จากสถิติรับแจ้งความออนไลน์ทั้งรอบปีและรอบสัปดาห์ข้างต้นพบว่า สถิติอันดับ 1-4 ยังคงอยู่ในลำดับต้นๆเหมือนเดิม จึงขอเตือนประชาชนไม่ให้หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าว ภัยออนไลน์ที่น่าสนใจและเกิดขึ้นมากในรอบสัปดาห์ คือ คดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (call center) แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง และได้โทรศัพท์หาผู้เสียหายให้ตรวจสอบสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐใน Website กระทรวงการคลัง จากนั้นได้ให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนใน line ช่วงนี้คนร้ายส่ง link กระทรวงการคลังปลอมให้ผู้เสียหายกดเข้าไป ต่อมาคนร้ายได้ให้ผู้เสียหายกดที่โลโก้กระทรวงการคลังมุมขวามือ 

ทั้งนี้ ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการคลังจริง  จึงยินยอมกด link  เข้า Website ปลอม และกรอกข้อมูลชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์  ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนตัวในระบบ  และใส่รหัสยืนยันตัวตน  เลข 6 หลัก  ต่อมาผู้เสียหายกรอกเลข OTP 6 หลักให้คนร้ายเพิ่มเติม เป็นเหตุให้ผู้เสียหายถูกควบคุมโทรศัพท์และถูกดูดเงินออกไป จึงขอประชาสัมพันธ์ว่าจงมีสติไม่หลงเชื่อ ไม่กรอกหรือให้ข้อมูลส่วนตัวผ่านช่องทางออนไลน์และทางโทรศัพท์ ไม่ควรกระทำการใดๆใน  Website  หรือ  Application ที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่กด link แปลกปลอม และไม่ดาวน์โหลด Application ที่ไม่ผ่านการยืนยันโดยแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ 

พล.ต.ท.สมพงษ์  กล่าวอีกว่าข้อควรปฏิบัติในการป้องกัน Application ดูดเงิน

1. ก่อนเกิดเหตุ

1.1  ไม่ผูกบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต ไว้ในแอปต่าง ๆ หากจำเป็นให้ยกเลิกการผูกบัตรเมื่อใช้งานเสร็จ หรือจำกัดยอดวงเงินที่รับความเสี่ยงได้เอาไว้

1.2  หลีกเลี่ยงการผูกบัญชีเงินฝากที่มียอดสูงๆ กับแอพพลิเคชั่นธนาคาร  ใช้บัญชีที่มียอดเงินเท่าที่จำเป็น หรือหากมีความจำเป็นต้องรับ-โอนเงินจำนวนมาก/วัน ควรแยกเครื่องที่ใช้โทรศัพท์หรือเล่นโซเชียลมีเดีย

1.3 อย่าตั้ง “รหัส” เข้าแอพพลิเคชั่นธนาคาร ตามวันเดือนปีเกิด เลขบัตร เบอร์โทร ที่คนร้ายสุ่มได้ง่าย

2. ขณะเกิดเหตุ

2.1 “ตั้งสติ” ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจถูกหลอกลวง ตั้งคำถามกับตัวเอง “จริงเหรอ”

2.2  “ตรวจสอบ” กลับ โดยดำเนินการ ดังนี้ 1)  ดูเบอร์โทรที่โทรมา หากมีเครื่องหมาย + นำหน้า  แสดงว่าที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ 2) เบอร์มือถือโทรมา เราต้องขอเบอร์ “คอลเซ็นเตอร์หน่วยงาน” ที่อ้าง เพื่อติดต่อกลับเองเพื่อถามข้อมูล 3) อ้างติดธุระขอวางสาย  แล้วโทรกลับเบอร์ที่คนร้ายโทรมาหากโทรไม่ได้  แสดงว่าเป็นการโทรโดยใช้ระบบอินเตอร์เน็ต(VOIP) โทรมาหลอกลวง

2.3 “ต้องสังเกต” ลิงค์ที่คนร้ายให้มาว่าผิดปกติหรือไม่ เช่น ใช้ขีด แทน จุด เป็นต้น ให้นำลิงค์ตรวจสอบกับเว็ป https://whois.domaintools.com/ จะเห็นว่าเพิ่งเปิดมาไม่นาน ของหน่วยราชการส่วนใหญ่จะเปิดมาหลายปี 

2.4 “ต้องห้าม”  1) โหลดลิ้งก์จากคนที่เราไม่รู้จักนอก play store/app store   2) ไม่อนุญาตให้ใครเข้าถึงข้อมูลในเครื่อง สังเกตคำเตือนจากโทรศัพท์ของเรา 3) ไม่บอกรหัสใดๆ ที่แจ้งมาให้ผู้อื่นทราบ

2.5 “ตัดสัญญาณ”  เมื่อเกิดอาการ “หน้าจอค้าง”  คนร้ายอ้างว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่ความจริงเครื่องท่านถูกรีโมทแล้ว  ต้องรีบตัดสัญญาณ โดยปิดเครื่อง/ปิดเร้าเตอร์/ถอดซิม (คลิปเสียบกระดาษช่วยได้) ดังกล่าวอีกด้วย..........-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ดีอี’เตือนภัย‘โจรออนไลน์’ สร้างเพจปลอม‘โอ้กะจู๋’เสนอขาย IPO ระวังถูกดูดเงิน ‘ดีอี’เตือนภัย‘โจรออนไลน์’ สร้างเพจปลอม‘โอ้กะจู๋’เสนอขาย IPO ระวังถูกดูดเงิน
  • เชือด‘ไทยเทา’! ฟันข้อหาหนัก 119 คนขายชาติ ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เชือด‘ไทยเทา’! ฟันข้อหาหนัก 119 คนขายชาติ ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์
  • เปิด 10 อันดับ‘ข่าวปลอม’ เตือนโจรออนไลน์เปิดบัญชีตุ๋นลงทะเบียนผ่านTikTok เสี่ยงสูญเงิน เปิด 10 อันดับ‘ข่าวปลอม’ เตือนโจรออนไลน์เปิดบัญชีตุ๋นลงทะเบียนผ่านTikTok เสี่ยงสูญเงิน
  • รัฐบาลเตือน! มิจฉาชีพอ้างเป็น‘กรมบัญชีกลาง’ลวงดูดเงินประชาชน รัฐบาลเตือน! มิจฉาชีพอ้างเป็น‘กรมบัญชีกลาง’ลวงดูดเงินประชาชน
  • เตือน‘วัยเกษียณ’! มิจฉาชีพล็อกเป้า‘คอลฯ’หลอกมากขึ้น เตือน‘วัยเกษียณ’! มิจฉาชีพล็อกเป้า‘คอลฯ’หลอกมากขึ้น
  • ตร.อายัดเงินเองได้ เตือนหากมี‘ตำรวจวิดีโอคอล’ให้โอนเงิน ‘มิจฉาชีพ’แน่นอน ตร.อายัดเงินเองได้ เตือนหากมี‘ตำรวจวิดีโอคอล’ให้โอนเงิน ‘มิจฉาชีพ’แน่นอน
  •  

Breaking News

'วราวุธ'มั่นใจไม่มีการคว่ำงบฯ 69 เปรียบ'พท.-ภท.'เหมือนผัวเมีย มีกระทบกระทั่งกันบ้าง

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันอังคาร 13 พฤษภาคม​ 2568

‘ครม.’ป่วย!!! ‘อนุทิน-พิชัย’ผ่าตัด/‘นฤมล’ข้อเท้าแตก

ย้อนเกล็ดสว.! ‘ทวี’ลั่นคนมีเกียรติ ต้องให้เกียรติคนอื่นก่อน ยันคดี‘ฮั้ว’ไม่ทำรัฐบาลล้ม

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved