ป.ป.ช.ตรัง บินโดรนลุยตรวจประกอบภาพ กูเกิล เอิร์ธ หลังชาวบ้านร้องเรียน ‘ผู้มีอิทธิพล’ ลักลอบดูดทราย เปิดภาพพบตลิ่งพัง ทางน้ำเปลี่ยนแปลงขั้นวิกฤต ทรัพยากรเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ทาง ‘อุตสาหกรรมจังหวัด’ ไม่ได้ดำเนินคดีกับผู้ลักลอบดูดทรายในแม่น้ำแต่อย่างใด ป.ป.ช.สั่งจี้และกำชับอย่าปล่อยปละละเลย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ 15 มี.ค. 66 นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ นายพงศกร ชูเลื่อน ปลัดอำเภอปะเหลียน นายศุภชัย อินทร์สังข์ ผอ.กองช่างเทศบาลตำบลท่าพญา นายชัยวุฒิ สวัสดิรักษ์ ประธานชมรมตรังต้านโกง ได้เดินทางลงตรวจสอบการลักลอบดูดทรายในที่ดินกรรมสิทธิ์ และการลักลอบดูดทรายในแม่น้ำ จำนวน 2 แห่ง ในพื้นที่ของหมู่ที่ 3 และ หมู่ที่ 4 ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ภายหลังจากได้รับข้อมูลและเบาะแสว่ามีการลักลอบดูดทราย ก่อนจะประสาน นายเทอด อักษรทอง วิศวกรชำนาญการ น.ส.จุฑาพร ปราบปรี วิศวกรปฏิบัติการ สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ตรัง เข้าร่วมตรวจสอบด้วย
ผลจากการลงตรวจสอบบ่อแปลงที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.ท่าพญา ไม่พบการดำเนินการดูดทรายในขณะลงตรวจสอบ แต่พบว่ามีร่องรอยการดูดทราย และการร่อนทรายในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งไม่พบผู้ใดเป็นผู้ครอบครอง ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ เมื่อวันที่ 22 และ 26 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา ได้มีการลงตรวจสอบ พบการกระทำความผิดแอบลักลอบ ล้าง คัดแยกขนาดทรายในที่ดินกรรมสิทธิ์ ทางพนักงานเจ้าหน้าที่ได้แจ้งความดำเนินคดีตามมาตรา 12 แห่ง พรบ.โรงงาน พ.ศ.2535 โดยผู้ต้องหายอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยินยอมให้เปรียบเทียบปรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จนกระทั้งคำสั่งทางปกครองสำนักงานอุตสาหกรรมตรัง ได้สั่งให้ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนและให้แก้ไขปรับปรุงโรงงานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่ปรากฏว่าระยะเวลาล่วงเลยมาจนถึงวันนี้ (15 มี.ค.66) เกือบจะครบ 1 ปี แต่ปรากฏว่าทางผู้ประกอบการยังคงไม่มีการดำเนินการแก้ไข แต่อย่างใด และพ้นระยะเวลามานานแล้ว โดยผลจากการดูดทรายพบว่าตลิ่ง ทางน้ำเปลี่ยน และทรัพยากรธรรมเสียหายเป็นจำนวนมาก และยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีในส่วนนี้
ต่อมาจากการตรวจสอบบ่อแปลงที่ 2 ไม่พบว่ามีการดูดทรายเช่นเดียวกัน แต่ทางผู้ให้ข้อมูล ระบุว่า ได้เลิกดูดไปแล้วประมาณ 4-5 ปี ซึ่งบริเวณพื้นที่ใกล้กันได้พบเรือดูดทราย พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบแต่ไม่พบผู้ครอบครอง และทราบว่าจากข้อมูลระบุว่า กำนันคนดังรายหนึ่งเป็นเจ้าของบ่อดูดทรายแห่งนี้ ซึ่งจากการบินโดรนและภาพถ่ายจาก กูเกิล เอิร์ธ (Google Earth) พบว่า ตลิ่งพังเป็นวงกว้าง ทรัพยากรธรรมชาติเสียหายอย่างหนัก และพบว่าเส้นทางน้ำได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งเกิดความเสียหายต่อประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งก็ยังคงไม่มีการดำเนินคดีแต่อย่างใดเช่นเดียวกัน
นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง กล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่าที่มาที่ไปเป็นยังไงเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานว่าจะเข้าเงื่อนไขตามกฏหมายหรือไม่อย่างไร วันนี้ก็ได้สั่งการและกำชับไปยัง สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ตรัง ว่าให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในส่วนไหนที่เข้าข่ายผิดกฎหมายก็ให้ไปดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี ขณะเดียวกันในฐานะผู้รับผิดชอบดูแลก็ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด อย่าให้เกิดปัญหาในพื้นที่เกี่ยวกับการดูดทราย เพราะมีผลกระทบทรัพยากรธรรมเป็นอย่างมาก
นายชัยวุฒิ สวัสดิรักษ์ ประธานชมรมตรังต้านโกง กล่าวว่า วันนี้จากการลงพื้นที่ก็ไม่พบว่ามีการดูดทราย แต่พบร่องรอยล้อรถแบคโฮที่ค่อนข้างจะชัดเจนอยู่ว่าเหมือนจะเพิ่งเคลื่อนย้ายออกไปไม่นาน และยังพบเรือดูดทรายที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลังคาใหม่ ซึ่งอาจจะมีการกระทำลักลอบ แต่เนื่องจากการลงพื้นที่ไม่พบการกระทำความผิดซึ่งหน้า ก็ยังไม่แน่ชัดว่ามีการลักลอบดูดกันมากน้อยแค่ไหน แต่สภาพค่อนข้างจะมีนัยยะว่ามีการลักลอบดูดทรายในพื้นที่อยู่พอสมควร ซึ่งทาง ป.ป.ช.และชมรมฯ คงจะต้องดำเนินการกดดันสำหรับผู้กระทำความผิดต่อไป และทั้งนี้ลักษณะของผู้ที่กระทำการดูดทรายส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ที่มีอิทธิพลในพื้นที่หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาครัฐ สิ่งเหล่านี้ทาง ป.ป.ช.และชมรมฯ มีการติดตามและไม่กังวลพร้อมเดินหน้าในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นหลังจากมีการตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ตรัง ได้ดำเนินการเพียงแค่แจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กับ ร.ต.อ.วิสวัส ไพบูลย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปะเหลียน) แต่ยังไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีหรือดำเนินการตรวจยึดแต่อย่างใด.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี