หนุ่มใหญ่อุดรฯวัย 44 ปี สำนึกผิดแล้ว ร้ำไห้ยอมรับกุเรื่องหลอกเงินแม่ขายที่นาส่งเงินให้เฉียดล้าน อ้างถูกจับเรียกค่าไถ่เอาไปแทงพนันออนไลน์ อ้างมีสาวสวยเป็นนกต่อ สัญญาจะไม่ทำอีก ขอให้โอกาสกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี เตรียมบินไปทำงานต่างประเทศหาเงินใช้หนี้ ขณะที่แม่ให้อภัยลูกชายถือว่าฟาดเคราะห์ไปก็แล้วกัน

วันนี้ (15 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนางอบมา อายุ 67 ปี ชาวบ้านที่บ้านดอนแดง  หมู่  8 ต.บ้านเหล่า  อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เดือดร้อนและทุกข์ใจหนัก เมื่อลูกชาย คือนายสัญญา อายุ 44 ปี อ้างว่าถูกชายฉกรรจ์จับตัวเรียกค่าไถ่เพราะเป็นหนี้พนันออนไลน์ จนต้องขายที่นา ซึ่งเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายจำนวน 8 ไร่ ได้เงิน 800,000 บาทและหยิบยืมเงินญาติพี่น้องรีบโอนเงินไปให้ลูกชาย จำนวน 920,600 บาท เพราะห่วงจะถูกฆ่าทิ้งและด้วยความห่วงใยว่าจะถูกจับเรียกค่าไถ่จริง โดยโอนไปให้ถึง 3 ครั้ง จนต้องปาดน้ำตาร้องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานกับส่วนกลางเพื่อเข้าช่วยเหลือนายสัญญาโดยด่วน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ตำรวจเร่งคลี่ปมลูกชายอ้างขอเงินแม่เฉียดล้าน ส่อ‘เรียกค่าไถ่ทิพย์’หรือไม่)

ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสัญญา ยอมรับแล้วว่ากุเรื่องเพื่อหลอกเอาเงินแม่ไปเล่นพนันออนไลน์และจ่ายเงินกู้นอกระบบจริง โดยนายสัญ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ผมสบายใจขึ้น หลังจากที่เห็นข่าว คิดถึงหัวอกแม่ที่ช่วยมาตลอด  เรื่องราวที่เกิดขึ้นผมยอมรับติดการพนันออนไลน์และติดหนี้นอกระบบร้อยละ 20 เพื่อหาเงินไปเล่นการพนันออนไลน์ จึงโทรไปขอเงินให้แม่ช่วย แต่เอามาเล่นเพื่อหวังได้เงินคืนมา แต่ก็เสียไปอีก และถูกจับไปไว้โกดังเพื่อหาเงินมาใช้หนี้นอกระบบจริงเกือบล้านบาทตามที่ขอแม่มา โดยมีผู้หญิงมาอยู่เป็นเพื่อนด้วยคาดเป็นนางนกต่อ และอ้อนให้ตนเองโทรหาแม่ให้ส่งเงินมาให้

"แต่ก่อนผมก็เคยเป็นคนดีของครอบครัวคนหนึ่ง แต่หน้ามืดตามัวหลงไปติดการพนันออนไลน์อย่างหนัก ผมชั่วเอง ตอนนี้ผมสำนึกผิดแล้ว สัญญากับแม่และน้าสาว จะไปทำงานไต้หวันเพื่อหาเงินมาให้หนี้ให้แม่และไถ่ที่นาให้แม่ ผมอยากจะบอกแม่ว่า ลูกมันชั่วเพราะหน้ามืดตามัว ตอนนี้ผมสำนึกผิด แต่ก่อนผมก็เคยเป็นคนดี ผมพลาดไปแล้วผมก็ยอมรับผิดเลิกเด็ดขาดแน่นอน ขอโทษแม่และน้าสาวมากๆ ผมจะไปทำงานต่างประเทศหาเงินมาใช้หนี้แม่และไถ่นาให้แม่ คงไม่กลับไปบ้านเพราะอายคน "นายสัญญา พูดไปร่ำไห้ไป

ทางด้านแม่อบมา เปิดเผยว่า วันนี้ลูกชายพูดความจริง รู้สึกสบายใจขึ้น แต่วันก่อนก็ยังทักมาขอว่า ขอก้อนสุดท้ายแสนกว่าบาทเพื่อใช้หนี้ แม่ก็บอกไปว่าไม่มีปัญญาหาเงินให้อีกแล้ว โดยน้าสาวของนายสัญก็เลยบอกว่า ให้มึงไปเปิดดูข่าวหน่อยว่าเรื่องเป็นอย่างไร พอนายสัญเปิดดูข่าวเขาก็มีท่าทีอ่อนลงไม่ขอเงินแม่อีกแล้ว ตอนนี้นายสัญกลับไปอยู่บ้านพี่ชายที่รามอินทราแล้ว คงสำนึกผิด บอกแม่และน้าสาวว่าจะกลับตัวเป็นคนดี และสัญญาจะไม่ไปเล่นการพนันอีก ลูกชายพูดแบบนี้แม่ก็อุ่นใจยังไงก็ลูก ส่วนเงินที่เสียไปแล้วก็ถือว่าฟาดเคราะห์ เงินขายนาแม่ไม่เอาจากลูกหรอก ขอให้ลูกกลับตัวกลับใจเป็นคนดี ไม่หวนกลับไปเล่นพนันอีกก็พอ