พายุฤดูร้อนถล่มบ้าน500หลัง
เชียงใหม่อ่วม
เสาไฟหักโค่นทับรถยนต์20คัน
4อำเภอ-577ครัวเรือนเดือดร้อน
พืชผลด้านการเกษตรเสียหายยับ
นายกฯสั่งเร่งช่วยเหลือประชาชน
ปภ.เชียงใหม่ สรุปเหตุพายุฤดูร้อน-ลูกเห็บ ถล่ม 4 อำเภอ จ.เชียงใหม่ บ้านพักกว่า 500 หลัง เสาไฟล้มทับรถยนต์กว่า 20 คัน บ้านเรือนหลายร้อยยังไม่มีไฟฟ้าใช้ พืชผลการเกษตรเสียหายยับ นายกฯสั่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือประชาชน ด้าน มท.1 ย้ำท้องถิ่นแจ้งเตือน-ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัย
เมื่อวันที่ 19มีนาคม นายอารุณปินตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงใหม่ สรุปความเสียหายพายุฤดูร้อนและลูกเห็บถล่มพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ในช่วงเย็นวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ว่ามีผลกระทบใน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.แม่ริม อ.สันกำแพง และ อ.สันทราย บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย577 ครัวเรือน ส่วนใหญ่หลังคาปลิวหาย และหลังคาทะลุจากลูกเห็บลมแรง โดยเฉพาะบ้านในหมู่บ้านดอยสุเทพ หมู่บ้านดอยปุย บ้านภูพิงค์ ต.สุเทพ ซึ่งอยู่บนดอยสูง และพื้นที่ ต.ฟ้าฮ่าม ใจกลางเมืองเชียงใหม่ เสาไฟฟ้าแรงสูง หักโค่นมากกว่า 20 ต้น ล้มทับรถยนต์เสียหายไม่น้อยกว่า20 คัน ทรัพย์สินประชาชนได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งพืชผลทางการเกษตร ส่วนพื้นที่ อ.สันทราย และ อ.สันกำแพง หลังคาบ้านและต้นไม้ใหญ่โค่นล้มทับทรัพย์สิน เบื้องต้นได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความช่วยเหลือแล้ว รวมทั้งเร่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรืออาคารที่ได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจสภาพพื้นที่ภายหลังประสบเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มใน จ.เชียงใหม่ พบว่าสภาพป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ สูงกว่า 50 เมตร หน้าโครงการคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โครงสร้างป้ายพังลงมากว่าครึ่ง แผ่นรองป้ายปลิวหายไป นอกจากนี้หลังคาบริษัท นิ่มซีเส็ง จำกัด ถูกกระแสลมพัดปลิวหายไปทั้งหลัง รวมทั้งป้ายขนาดใหญ่ที่ตั้งบนอาคารพาณิชย์ และป้ายโฆษณาบริเวณสามแยกฟ้าฮ่าม ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง อยู่ในสภาพพังถล่มลงมาทำให้พื้นที่ดังกล่าวได้รับความเสียหาย
ส่วนเต็นท์จำหน่ายรถยนต์มือสอง และร้านค้าต่างๆ ที่ตั้งอยู่บนถนนเชียงใหม่-พร้าว ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ป้ายหน้าร้านและหลังคาถูกกระแสลมพัดปลิวหายไป หน้าโชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ มีเสาไฟหักโค่น โครงเหล็กป้ายโฆษณาพังถล่ม ทับรถยนต์เสียหาย4 คัน ซึ่งบางคันเสียหายทั้งคัน หลังคายุบเพราะถูกเสาไฟฟ้าทับ โดยเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่แล้ว มีการนำรถที่เสียหายทั้งหมดมาจอดไว้บนลาน เพื่อประเมินค่าความเสียหายอีกครั้ง แต่ที่เสียหายหนักสุด คือเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ บนถนนเชียงใหม่-พร้าว ขาเข้าเมือง ต.ฟ้าฮ่าม ที่หักโค่นลงมาเกือบ 10 ต้น ทับร้านค้า รถยนต์หลายคัน และยังหักลงมาขวางทางเข้าออกหมู่บ้านเลควิวปาร์ค ที่อยู่บนถนนเชียงใหม่-พร้าว ขาเข้าเมืองก่อนถึงสามแยกฟ้าฮ่าม จนชาวบ้านในหมู่บ้านดังกล่าวเข้าออกหมู่บ้านไม่ได้ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน กระแสลมที่กระโชกแรง ยังพัดกระจกและฝ้าเพดานของโชว์รูมรถยนต์ฟอร์ด บนถนนเชียงใหม่-พร้าว ขาเข้าเมือง พังลงทับรถยนต์ที่จอดโชว์อยู่ภายในโชว์รูมได้รับความเสียหายอีกกว่า 3 คัน
อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปภ.และการไฟฟ้าฯ ได้เข้าสำรวจความเสียหาย และเตรียมเครื่องจักร รถเครนขนาดใหญ่ เก็บกู้เสาไฟฟ้าที่หักโค่น และเร่งเคลียร์พื้นที่ เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนในพื้นที่ย่าน ต.ฟ้าฮ่าม รวมโชค ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้หลายร้อยหลังคาเรือน นับตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา
นางมิ้นท์ (นามสมมติ) แม่บ้านในหมู่บ้านเลควิวปาร์คเปิดเผยด้วยอาการที่ยังตื่นตกใจว่าอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านนี้มาตั้งแต่อายุ 15 ปี ไม่เคยเจอพายุที่รุนแรงแบบนี้มาก่อน ช่วงที่เกิดเหตุรู้สึกตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก ลมพัดแรงมากจนข้าวของปลิวกระจัดกระจาย ต้นไม้กิ่งไม้หักลงมา จากนั้นฝนก็ตกมาพร้อมกับลูกเห็บลูกใหญ่ที่ตกลงมาจนขาวโพลนเต็มพื้น จึงต้องวิ่งเข้าไปหลบในบ้าน
“พายุฝนตกลงมานานเกือบชั่วโมงก่อนจะสงบลง หลังจากพายุสงบพบว่าบ้านในหมู่บ้านหลายหลัง ได้รับความเสียหายหลังคาถูกพายุพัดปลิวหายไป มีเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ล้มขวางทางเข้าออกหมู่บ้าน และไฟฟ้ายังดับตั้งแต่ช่วงที่เกิดพายุจนถึงเช้าก็ยังใช้ไม่ได้”นางมิ้นท์ กล่าว
ขณะที่ชาวบ้านอีกรายซึ่งอาศัยอยู่ย่าน ต.ฟ้าฮ่ามกล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาหลายสิบปี ไม่เคยเจอพายุและลูกเห็บตกในตัวเมืองเชียงใหม่ที่รุนแรงแบบนี้มาก่อน สิ่งที่ทำได้ในช่วงที่เกิดเหตุ คือหาที่หลบเพื่อเอาตัวรอดเพราะลมพัดรุนแรงเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกัน ที่ จ.ลำปาง ภายหลังเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงมีลูกเห็บขนาดเล็กตกลงมาในพื้นที่บ้านแม่ฮาว หมู่ 3 ต.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง มีบ้านเรือนเสียหายกว่า 10 หลังคาเรือน และอีกพื้นที่คือ ต.บ้านเอื้อม อ.เมือง จ.ลำปาง เกิดพายุฝนและลมกระโชกแรง ยาวนานกว่า 10 นาที ภายหลังพายุสงบได้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรในหลายจุด และยังมีรายงานว่าพายุฝน ลมแรง พัดต้นไม้ล้มเกี่ยวสายไฟ ทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรและมีไฟฟ้าดับในหลายหมู่บ้าน ในพื้นที่ ต.บ้านค่า และ ต.บ้านเอื้อม ที่หมู่บ้านสบเฟือง บ้านทุ่งกล้วย และในเขต ต.บ้านเอื้อม อ.เมือง จ.ลำปาง มีกิ่งไม้หักทับสายไฟหลายจุดทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตและไฟฟ้าดับ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ลำปาง ต้องเร่งเข้าดำเนินการซ่อมแซมแก้ไข
ด้านนายวีระพงษ์ คำทา นายก อบต.บ้านเอื้อม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งเข้าสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการ ถูกพายุพัดถล่มในเบื้องต้นแล้ว
วันเดียวกัน ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงเกิดเหตุพายุฤดูร้อนที่พัดถล่มพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีลูกเห็บตก เกิดลมกระโชกแรงจนทำให้เกิดความเสียหายในพื้นที่เป็นอย่างมากว่าได้สั่งการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากได้รับรายงานสถานการณ์โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในหลายกระทรวง เข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด
อีกด้านหนึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยกล่าวถึงเหตุพายุฤดูร้อนที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งทำให้มีลูกเห็บตกจนเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมากในพื้นที่ ว่าในการดำเนินการก็คงเป็นไปตามที่ได้สั่งการไปแล้ว ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ก็จะร่วมกับท้องถิ่นในการเข้าไปดูแลพี่น้องประชาชน เรื่องนี้ได้มีการเตือนภัยล่วงหน้าแล้วว่าในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นเป็นประจำโดยมีการเตรียมการและสั่งการให้ท้องถิ่นได้ดูแล ตรวจตราพื้นที่ต่างๆที่อาจเกิดอันตรายได้ และแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ซึ่งความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทางพื้นที่ยังสามารถรับมือได้และได้เข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนแล้วในขณะนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี