เมื่อเวลา 19.20 น.วันที่ 20 มี.ค.66 ที่ผ่านมา นายธนยศ หิรัญเนตร นายอำเภอศรีสวัสดิ์ ร.ต.อ.อนุสรณ์ สุดโต รอง สว.(สอบสวน) สภ.ศรีสวัสดิ์ นายกิตธิสิทธิ์ ทุมมาส นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนประสานงากันอย่างแรงเป็นเหตุทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณถนนสาย 3199 หน้าโรงเรียนบ้านแก่งแคบ หมู่ 4 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี บริเวณดังกล่าวยังมีต้นไม้หักโค่นขวางถนนทางหลวงหมายเลข 3199 จำนวน 3 ต้นเนื่องเนื่องเกิดพายุฤดูร้อนทำให้ลมกรรโชกอย่างรุนแรง ส่วนภายในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณมีต้นไม้หักโค่นทับบ้านพักและร้านกาแฟอีกด้วย
สำหรับจุดเกิดเหตุรถยนต์ชนประสานงากันนั้นพบว่าเป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน กาญจนบุรี กับรถกระบะยี่ห้อมิซซูบิชิ ไทรทัน สีดำ ทะเบียน พิษณุโลก สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ส่วนคนขับเสียชีวิตคาพวงมาลัยทั้ง 2 คัน
ทราบชื่อคือนายทินกร ชาว ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีขาว ขับมาจากทางด้าน ต.ท่ากระดานมุ่งหน้า ต.ลาดหญ้า และ น.ส.สายรุ้ง ชาว หมู่ 2 ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ คนขับรถยนต์กระบะยี่ห้อมิซซูบิชิ ไทรทัน สีดำ กำลังมุ่งหน้าไปทาง ต.ท่ากระดาน โดยมีญาติที่มาด้วยกันเป็นชายได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ทั้งหมดติดอยู่ในซากรถ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเอราวัณ ต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดนำร่างออกมา จากนั้นจึงนำผู้ได้บาดเจ็บและเสียชีวิตส่งโรงพยาบาลท่ากระดาน ก่อนที่จะประสานญาติให้มาดูศพและผู้บาดเจ็บต่อไป
โดยนายธนยศ หิรัญเนตร นายอำเภอศรีสวัสดิ์ เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 18.00 น.-19.00 น.ของวันที่ 20 มี.ค.ได้เกิดพายุฤดูร้อนทำให้มีฝนตกและลมกรรโชกอย่างรุนแรงทำให้ต้นไม้ริมทาง 3 ต้นและเสาไฟ 3-4 เสา หักโค่นขวางถนนสาย 3199 เขื่อนศรีนครินทร์-ศรีสวัสดิ์ ช่วงโค้งเขาตับเต่า ทำให้อำเภอศรีสวัสดิ์ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้เกือบทั้งอำเภอ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ได้นำเจ้าหน้าที่ชุด ชรบ.เข้าปฏิบัติงานร่วมกับกรมทางหลวง เข้าเคลียร์พื้นที่และสามารถตัดต้นไม้ที่ล้มกีดขวางทางได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ กฟผ.เขื่อนศรีสครินทร์ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง จึงสามารถเคลียร์พื้นที่ได้
ส่วนจุดที่เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนประสานงามีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 รายนั้น ปรากฎว่ามีคราบน้ำมันไหลออกมา เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงได้นำสารมาดูดคราบน้ำมันและทำความสะอาดเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก จึงทำให้รถยนต์เสียหลักพุ่งชนประสานงากันดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอบสวนต่อไป - 003