ผ่านมากว่า 30 ชม. ยังไม่รู้ชะตากรรมอุ้ม 2 คนจีนเรียกค่าไถ่ 4.7 ล้าน เผยสามีเหยื่อยังปกปิดข้อมูลบางอย่าง ไม่ยอมให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ด้าน ตร.พุ่งเป้าขัดแย้งธุรกิจผิดกฏหมาย"แก๊งคอลเซ็นเตอร์"ฝั่งเพื่อนบ้านท่าขี้เหล็ก ภาพวงจรปิดเผยภาพแก๊งคนร้ายมาซื้อ จยย.ไปใช้ก่อเหตุ เจ้าของแฉท่าทีพิรุธหลบมุมกล้องวงจรปิด ไม่ยอมยื่นเอกสารแสดงตน

จากกรณีนายหม่า หมิงชุน อายุ 33 ปี นักธุรกิจชาวจีน เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.จีระศักดิ์ แอบแฝง สว.สอบสวน สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่า ภรรยา และพี่ชาย สัญชาติเดียวกัน ถูกชายฉกรรจ์ชาวจีนไม่ทราบจำนวน ก่อเหตุลักพาตัวไปพร้อมกับ รถยนต์เอสยูวี นิสสัน เทอร่า สีดำ ทะเบียน จธ 1856 ชลบุรี ขณะกำลังขับรถกลับบ้านพัก หลังไปส่งลูกชาย ที่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง โดยคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ปาดหน้าบังคับให้จอดรถ จากนั้นคนร้ายได้กระโดดขึ้นรถของภรรยา และขับพาไปทั้งคนและรถ จากนั้นคนร้ายได้ใช้แอพพลิเคชั่น วี แชท โทรกลับมาเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 1 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทย 4.7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว เหตุเกิดภายใน ซอยพรประนิมิตร 21 ม.2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงสายวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้ว (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เอาอีกแล้ว!! จีนอุ้มจีนเรียกค่าไถ่ 1 ล้านหยวน ตำรวจระดมกำลังช่วยเหลือ)

ความคืบหน้าของคดีเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 21 มี.ค.66 ที่ห้องชั้น 3 สภ.หนองปรือ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญ ผบก.สส.ภาค2 พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ พร้อมทีมสืบสวนชุดคลี่คลายคดีนี้ มีการร่วมประชุมเพื่อสรุปความคืบหน้า โดยเบื้องต้น ผ่านมาแล้วกว่า 30 ชั่วโมง กลุ่มคนร้ายยังไม่มีท่าทีปล่อยตัวประกัน ขณะที่ตำรวจสันนิษฐานว่า กลุ่มคนร้ายน่าจะมีประมาณ 4-5 คน แต่คดียังมีความสับสนหลายอย่าง อีกทั้งสามีของเหยื่อที่ถูกลักพาตัวไม่ยอมให้การเป็นประโยขน์ต่อรูปคดี พยายามปกปิดข้อมูลบ้างอย่างไว้ และไม่ยอมพูดความจริง

ขณะที่ทีมสืบสวน ลงพื้นที่ไล่กล้องวงจรปิด พบความผิดปกติในเรื่องของห้วงเวลา เนื่องจากข้อมูลจากกล้องวงจรปิด พบว่ารถของผู้เสียหายกับรถของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ทิ้งห่างกันเกือบ 1 นาที แต่คนร้ายก็ยังสามารถติดตามรถของเหยื่อได้ทัน โดยเกรงว่า 1 ในตัวประกัน จะรู้เห็นกับกลุ่มผู้ก่อเหตุหรือไม่ แต่อย่างก็ตาม ตำรวจเริ่มตัดประเด็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว โดยมุ่งไปในเรื่องของการ ขัดแย้งขัดผลประโยชน์ธุรกิจผิดกฏหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในฝั่งประเทศเพื่อน อำเภอท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า

ทางด้าน นายนนท์ อายุ 26 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถจยย.แห่งหนึ่ง บริเวณสี่แยกมิตรกมล ต.หนองปรือ ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้มีชายชาวจีน สวมเสื้อคอกลม สีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น สีดำ ใส่แมสปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาถามซื้อรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า MSX สีดำ จึงพูดเสนอขายไปในราคา 15,000 บาท แล้วเดินหนีหายไป  ผ่านไปไม่กี่นาทีชายชาวจีนเสื้อขาวคนเดิม ได้เดินกลับมาพร้อมกับเพื่อนชายชาวจีนอีกคน ซึ่งสวมเสื้อคอกลมลายขวางสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ ใส่แมสปิดบังใบหน้า เข้ามาถามซื้อรถจยย.คันดังกล่าวอีกครั้ง ก่อนจะจบราคาขายกันที่ 14,000 บาท และให้เงินอีก 1,000 บาท ใช้ลูกน้องในร้านไปซื้อหมวกกันน็อคเต็มใบจำนวน 2 ใบ

ระหว่างตรวจเช็คสภาพรถ จยย. ก่อนส่งมอบให้ลูกค้า ก็เริ่มพบว่าชาวจีนทั้งสอง เริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ เนื่องจากทั้งคู่ได้พยายามเดินหลบมุมกล้องวงจรปิด ขณะการซื้อขายก็ได้ไปนั่งหลบอยู่บริเวณหลังร้าน พร้อมกับไม่ยอมให้เอกสารหลักฐานในการซื้อขาย โดยเจ้าตัวอ้างว่า ต้องการใช้ รถจยย.ไม่กี่วัน และจะนำมาขายคืนครึ่งหนึ่งจากราคาของการขาย นอกจากนี้ยังพบชายต่างด้าวต้องสงสัยอีก 1 คน เดินตามเข้ามาสบทบกับกลุ่มชาวจีน ตลอดการพูดคุยชาวจีนได้ใช้แอพพลิเคชั่นช่วยแปลในการสื่อสารครั้งนี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุ รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าชาวจีนที่ซื้อรถจยย.เอาไปก่อคดีอุ้มคนเรียกค่าไถ่.-001