วันที่ 22 มีนาคม 2566 ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข (ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม) อาคารกระทรวงยุติธรรม ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้นำผู้เสียหายจำนวน 4 ราย สูญเงินจำนวน 15 ล้านบาท จากกรณีถูกสามี-ภรรยาคู่หนึ่งมาชักชวนหลอกให้ร่วมลงทุนตัดเย็บเสื้อผ้าส่งกรมราชทัณฑ์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยอ้างว่ามีออเดอร์จากหน่วยงานราชการในส่วนกรมราชทัณฑ์ชุดชั้นในชาย1,800, 000 ตัว เสื้อกรมราชทัณฑ์,เสื้อกรมสถานพินิจอย่างละ 1 ล้านตัว และเสื้อของสโมสรตำรวจ 3 แสนตัว ระบุกิจการมีผลประกอบการลงทุน 200 เปอร์เซ็นต์ หากนำเงินมาร่วมลงทุนจะแบ่งเงินปันผลให้ผู้ร่วมลงทุน 30 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ที่สำคัญสองสามีภรรยาแอบอ้างว่ารู้จักกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.และผู้ใหญ่ในกรมราชทัณฑ์ จึงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและนำเงินมาร่วมลงทุนด้วย
ดังนั้น กรณีนี้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ และกรมราชทัณฑ์ รวมทั้งกระทรวงยุติธรรมที่กรมพินิจ ที่ถูกแอบอ้างถึงจะต้องออกมาชี้แจง ว่ามีออเดอร์การสั่งตัดเย็บดังกล่าวจริงหรือไม่ รวมทั้งผู้ที่ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนนั้นเป็นที่ปรึกษาของรองผบ.ตร.ตามที่มีการกล่าว อ้างจริงหรือไม่ ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดการฉ้อโกง ตามมาตรา 341
ด้านน.ส.เอ อายุ50ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รู้จักกับสามี-ภรรยาคู่นี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 จากการแนะนำของเพื่อน โดยก่อนที่จะนำเงินร่วมลงทุนตนเองและเพื่อนได้เดินทางไปที่บ้านของสามี-ภรรยาคู่นี้ พบว่าลักษณะของบ้านเปิดเป็นโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ตั้งอยู่ในตำบลศาลากลาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีเสื้อที่สกรีนชื่อเรือนจำหลายแห่งอยู่ภายในบ้าน และมีการตัดเย็บผ้าจริง โดยภรรยาอ้างว่าที่ได้งานนี้มาทำเพราะสามีเป็นที่ปรึกษาของ "บิ๊กโจ๊ก" พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
น.ส.เอ กล่าวอีกว่า ตนเองได้ร่วมลงทุนไปทั้งหมดประมาณ 10 ล้านบาท เป็นการทยอยร่วมลงทุน โดยช่วงแรกโอนไปประมาณ 4 ล้านบาท ก็ได้ผลตอบแทนคืนมา 2 ล้านกว่าบาท ส่วนที่เหลืออ้างว่าจะคืนทุนให้ช่วงวันที่ 7 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา แต่พอถึงกำหนดจริงๆ กลับเงียบหาย และต่อมาพบว่าตัวภรรยาไปอยู่ที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จนกระทั้งเดือนมีนาคม จึงไปทวงเงินที่บ้านจังหวัดนนทบุรี สามีกลับบอกว่าหย่ากันแล้ว และบ่ายเบี่ยงที่จะรับผิดชอบ บอกแต่เพียงว่าจะไปตามอดีตภรรยามาเคลียร์เรื่องนี้ให้ พร้อมยังบอกอีกว่าเป็นที่ปรึกษาบิ๊กโจ๊ก ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเขาต้องการจะสื่อถึงอะไร
ส่วนนายบี และนางซี สองสามีภรรยา ผู้เสียหายอีกราย ระบุว่า ตนเองและสามีร่วมลงทุนไปเกือบ 5 ล้านบาท กล่าวว่า ตนหลงเชื่อร่วมลงทุน เพราะว่าเมื่อไปดูที่บ้านแล้วพบว่าค่อนข้างน่าเชื่อถือ มีการตัดเย็บเสื้อผ้าจริง ซึ่งการโอนให้สองสามีภรรยาคู่นี้เป็นการทยอยโอน เนื่องจากตัวภรรยามักอ้างว่า ต้องมีเงินเพิ่มเติมเพื่อไปหมุนซื้อผ้าให้ออเดอร์แล้วเสร็จ ช่วงแรกได้เงินปันผลกลับมา 1 ล้านกว่าบาท ขณะที่ตอนหลังออกเป็นเช็ค แต่กลับไม่สามารถขึ้นเช็คได้ ซึ่งที่ผ่านมาตนเองต้องไปเอาเงินจากที่อื่นมาด้วย เพราะกลัวงานจะมีปัญหา แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ทุนคืนมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี