ศาลจังหวัดนครพนมอนุมัติหมายจับ 'ไอ้ก๊อต' หัวหน้าแก๊งวัย 24 ปีเปิดโกดังซุก จยย.เถื่อนขายข้ามชาติ ผู้เสียหายแห่ขอรับรถคืน

วันที่ 22 มี.ค.66 เมื่อเวลา 11.00 น.ที่หน้า สภ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ผบช.ภ.4) มอบหมายให้ พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล รอง ผบช.ภ.4 ร่วมกับ พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4, พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบ.ก.ภ.จว.นครพนม, พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.ส.1 บก.สส.ภ.4 และ พ.ต.อ.ศรีนคร นัยวัฒน์ ผกก.สภ.ศรีสงคราม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรภาค 4 แถลงการณ์จับกุมขยายผล แก๊งเยาวชนขบวนการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ข้ามชาติรายใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสาน

โดยเบื้องต้นสามารถจับกุมนายณัฐวุฒิ หรือณัฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี พร้อมด้วยนายณัฐวัฒน์ หรืออู๋ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี นายณัฐพล หรือเบส (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ทั้งสามคนเป็นชาว อ.หนองหาร จ.อุดรธานี และ นายวีระพงษ์ หรือพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี เป็นชาว อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ได้มาจากการโจรกรรมจำนวน 3 คัน ก่อนที่จะมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลเชื่อมโยงหาแหล่งนายทุนรับซื้อ

จนล่าสุดสามารถบุกทลายโกดังที่พักรถจักรยานยนต์ที่ได้มาจากการโจรกรรมในพื้นที่ภาคอีสาน ลักษณะเป็นห้องเช่า 3 คูหาในเขตเทศบาลตำบลศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่นำหมายศาลจังหวัดนครพนม เข้าตรวจค้นยึดของกลาง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา สามารถยึดรถจักรยานยนต์หลายยี่ห้อ จำนวน 35 คัน รวมถึงชิ้นส่วนอะไหล่ที่อยู่ระหว่างการชำแหละ เพื่อย้อมแมวขายรวมหลาย 100 รายการ พร้อมอาวุธปืนอาก้า จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง แต่ไม่พบผู้กระทำผิด คาดอาจไหวตัวหลบหนีทัน พร้อมประสานผู้เสียหายมาตรวจสอบยืนยันรถรถคืน

พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล รอง ผบช.ภ. 4 เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดีว่า หลังตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรภาค 4 ชุดสืบสวนนครพนม สภ.ศรีสงคราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง ได้มีการสืบสวนขยายผล จับกุมเครือข่ายขบวนการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่อีสาน จนกระทั่งพบเบาะแสว่าคนร้ายนำมาขายให้นายทุน ในพื้นที่ จ.นคพรนม ก่อนที่จะบุกตรวจยึดทลายโกดังพักรถจักรยานยนต์จำนวนเกือบ 40 คัน นำมาตรวจสอบ พร้อมนำส่งคืนผู้เสียหาย

จากการตรวจสอบเป็นรถจักรยานยนต์ที่มาจากโจรกรรมทั้งหมด ก่อนที่จะนำมาย้อมแมวส่งขาย โดยมีการสืบทราบว่า เป็นขบวนการค้ารถจักรยานยนต์ข้ามชาติ ส่งขายไปประเทศเพื่อนบ้าน จากราคาคันละประมาณ 30,000 -50,000 บาท ส่งขายตลาดมืดจะอยู่ที่ราคาคันละประมาณ 5,000-10,000 บาทตามสภาพ โดยคนร้ายตระเวนฉวยโอกาสโจรกรรมตามบ้านเรือนและสถานที่เปลี่ยวคน หรือเจ้าของรถที่ลืมกุญแจค้างไว้ รวมถึงใช้วิธียกขึ้นรถยนต์หลบหนี ก่อนนำมาพักทำการดัดแปลงสภาพ เพิ่มมูลค่าก่อนส่งขาย เป็นรถจักรยานยนต์เถื่อน ขายทั้งในพื้นที่อีสานและส่งข้ามแม่น้ำโขง

ทั้งนี้ ในการขยายผลดำเนินคดีทางพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสงคราม ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน เสนอศาลจังหวัดนครพนม พร้อมอนุมัติออกหมายจับเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา คือ นายไพรณรงค์ คำบุญ หรือก๊อต อายุ 24 ปี ชาวเทศบาลตำบลศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม และเป็นคนดูแลเช่าห้องพักทำโกดังพักรถจักรยานยนต์ที่โจรกรรมมา ก่อนส่งขายข้ามชาติประเทศเพื่อนบ้าน ในข้อหาฐานความผิด ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน รับของโจร และมีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม เชื่อยังหลบหนีในพื้นที่

นอกจากนี้ยังเชื่อว่ามีนายทุนรายใหญ่ในพื้นที่อยู่เบื้องหลัง และมีเบาะแสข้อมูลแล้ว กำลังสืบสวนรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงฝากประชาสัมพันธ์ พี่น้องประชาชน ระมัดระวังหาทางป้องกัน เกี่ยวกับการโจรกรรมทรัพย์สิน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หากมีเบาะแสหรือตกเป็นผู้เสียหายให้แจ้งตำรวจทันที เพื่อจะได้รวดเร็วในการติดตามจับกุม อย่างไรก็ตาม ในการจับกุมทลายเครือข่ายครั้งนี้ จะช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานพอสมควร เพราะเป็นแหล่งใหญ่ที่เชื่อมโยงค้าขายรถจักรยานยนต์โจรกรรมข้ามชาติ หากไม่มีแหล่งรับซื้อเชื่อว่าจะลดปัญหาการโจรกรรม ตัดวงจรได้เป็นอย่างมาก

ขณะเดียวกันมีผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายขโมยรถจักรยานยนต์ไป เดินทางนำเอกสารการแจ้งความไว้ที่โรงพัก มายืนยันเพื่อขอรับรถของตนคืน ซึ่งบางคันถูกเอาบล็อกกุญแจออกทั้งยวง แต่ก็มีบางคันที่ยังอยู่ในสภาพเดิม - 003