ไทยร้อนจัด41องศา
‘แม่สาย’สาหัสฝุ่นพุ่งสูง311มคก.
เชียงรายอ่วมไฟยังไหม้ยอดดอย
อุตุฯเตือนพายุฝนถล่ม26-29มี.ค.
อุตุฯเตือน “พายุฤดูร้อน” ฝนถล่ม 26-29 มีนาคม ทั่วทุกภาคอากาศร้อนถึงร้อนจัดทะลุ41 องศา ขณะที่ค่าฝุ่น PM2.5 ทั่วประเทศยังเกินมาตรฐาน 16 จว. เหนือ-อีสานฝุ่นพุ่งต่อเนื่อง อ.แม่สาย แม่ฮ่องสอน PM2.5 ทะลุ 311 มคก. ไฟป่าเพิ่มเฉียด 500 จุดหมอกควันไฟป่าลอยข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้านปกคลุมเมืองซ้ำ ทัศนวิสัยต่ำ เชียงราย สาหัสไม่น้อย ไฟป่ายังไหม้ดอยหลายจุด เตรียมปิด “ภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศในรอบ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวันและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางและภาคตะวันออก ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ เนื่องจากอากาศร้อนถึงร้อนจัด รวมถึงระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
เตือน‘พายุฤดูร้อน’ถล่ม26-29มีค.
กรมอุตุนิยมวิทยาระบุอีกว่า ระหว่างวันที่ 26-29 มีนาคม ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากจีนจะแผ่มาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นบางพื้นที่ เริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นจะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป
ทั่วไทยร้อนทะลุ41องศายกเว้นภาคใต้
สำหรับพยากรณ์อากาศ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด มีฟ้าหลัวตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ มีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส ได้แก่บริเวณจ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุบลราชธานี นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และตราด เช่นเดียวกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล อากาศร้อน มีฟ้าหลัวตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส ยกเว้นภาคใต้ อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
‘เหนือ-อีสาน’ฝุ่นหมอกควันมากสุด
กรมอุตุนิยมวิทยา ยังคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ด้วยว่า ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการสะสมฝุ่นละออง หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน ส่วนภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออกมีฝุ่นละออง/หมอกควันสะสมอยู่ในเกณฑ์น้อย เนื่องจากมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมทำให้บริเวณดังกล่าวอากาศระบายได้ดี
เหนือวิกฤติPM2.5ทะลัก278มคก.
ทั้งนี้ พบว่า ภาคเหนือเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 32 – 278 ไมโครกรัม (มคก.) / ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกินค่ามาตรฐาน 4 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 32 – 86 มคก./ลบ.ม.
ภาคกลางและตะวันตก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 18–36 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 5–29 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 11 – 20 มคก./ลบ.ม. กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 15 – 52 มคก./ลบ.ม.
16จว.สำลักฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน
เวลา 12.00 น.วันเดียวกัน ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่ทั่วประเทศว่า คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ คุณภาพดีมากถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอนหรือ PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง พบค่าฝุ่นระหว่าง 6-311 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดยค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) พบเกินค่ามาตรฐานใน 16 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.บึงกาฬ จ.เลย จ.นครพนม และจ.อุบลราชธานี ส่วนกรุงเทพฯและปริมณฑล ตรวจวัดค่าฝุ่นได้ 15-57 มคก./ลบ.ม. พบเกินมาตรฐาน 1 พื้นที่ บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
แม่สาย สาหัสPM2.5พุ่งสูงสุดในปท.
โดยภาคเหนือ ตรวจวัดค่าฝุ่นได้ 30-305 มคก./ลบ.ม. พบเกินมาตรฐาน 22 พื้นที่ ได้แก่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.หางดง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่, ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่, ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง, ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน, ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน, ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน, ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน, ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน, ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน, ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน, ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา, ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก, ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก, ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร, ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร, ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย, ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย, ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตรวจวัดค่าฝุ่นได้ 311 มคก./ลบ.ม. สูงสุดในประเทศไทย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจวัดค่าฝุ่นระหว่าง 32-89 มคก./ลบ.ม. พบเกินมาตรฐาน 5 พื้นที่ ได้แก่ ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย, ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย, ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี, ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม, ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ คุณภาพดีมากถึงคุณภาพปานกลาง
เตือนหมอกควันข้ามแดนถึง27มี.ค.
กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มควรเฝ้าระวังในภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านระหว่างวันที่ 25-27 มีนาคม ประชาชนควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวเองถ้าจำเป็น ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากจำเป็น
แม่ฮ่องสอนหนักไฟป่าใกล้500จุด
วันเดียวกัน ยังมีรายงานสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันหลายจังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กจังหวัดแม่ฮ่องสอนรายงานสถานการณ์ไฟป่าทั้งจังหวัดว่า ดาวเทียมพบจุดไฟป่าของวันที่ 23 มีนาคม 460 จุด ส่วนวันนี้ (24 มีนาคม) ตรวจพบจุดไฟป่า 197 จุด ส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นทางอากาศ เวลา 10.00 น.วัดได้ 1.5 กิโลเมตร และค่าฝุ่นพิษ 211 มคก./ลบ.ม.
นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนเผยว่า สถานการณ์ไฟป่ามีแนวโน้มจุดความร้อน และปริมาณฝุ่นPM 2.5 จะเพิ่มขึ้น แต่ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนยังบูรณาการความร่วมมือลดการเผา ลดฝุ่นควัน ตามมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองของจังหวัดแม่ฮ่องสอนเข้มข้นต่อเนื่อง ที่สำคัญขอความร่วมมือจากประชาชนทุกพื้นที่ให้งดเผาป่าโดยเร็วเนื่องจากสถานการณ์ควันไฟป่าส่งผลกระทบต่อทุกคน
เชียงรายอ่วมไฟป่าดอยหลายจุด.
เช่นเดียวกับ อุทยานภูชี้ฟ้า จ.เชียงรายเตรียมประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวและที่พักแรม ในอุทยานภูชี้ฟ้าชั่วคราว เนื่องจากเกิดผลกระทบจากไฟป่า นายบุญส่ง ตินารีนายอำเภอเทิง เผยว่าเกิดขึ้นในพื้นที่ได้เกิดจุดความร้อนหรือฮอตสปอตวันที่ 23 มี.ค. มากถึง11จุด ทางอำเภอสั่งการฝ่ายความมั่นคง ประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ.ชุดดับไฟป่าร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานดับไฟป่า พบไฟได้ลุกไหม้ขึ้นใน3 พื้นที่หลักคือ ต.งิ้ว 4 จุด อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตรงเขตรอยต่อระหว่าง อ.เทิง อ.พญาเม็งราย และ อ.เวียงชัย และต.หงาว 2 จุด พื้นที่หมู่ 1 หมู่บ้านปี้ และหมู่บ้านสันป่าบง หมู่ 11 รวมทั้งที่ป่าพื้นที่ชายแดนไทย-ลาว จากการตรวจสอบพบไฟลามมาจากทุ่งหญ้าเขตแขวงอุดมไชย สปป.ลาว และกำลังจะลามเข้าสู่ฝั่งไทย แต่เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำและใช้อุปกรณ์ดับจนควบคุมไม่ให้ลามเข้ามาได้ แต่ยังคงต้องเฝ้าติดตามใกล้ชิด ทั้งนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ยังเหลือพื้นที่หมู่บ้านเล่าตาขาว หมู่ 21 ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งมีความสูงชันอยู่ระหว่างเข้าควบคุมไฟ