วันเสาร์ ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
21จังหวัดค่าฝุ่นวิกฤตต่อเนื่อง  เชียงรายกระอัก  PM2.5พุ่งแตะเฉียด600มคก.

21จังหวัดค่าฝุ่นวิกฤตต่อเนื่อง เชียงรายกระอัก PM2.5พุ่งแตะเฉียด600มคก.

วันจันทร์ ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag :
  •  

21จังหวัดค่าฝุ่นวิกฤตต่อเนื่อง

เชียงรายกระอัก

PM2.5พุ่งแตะเฉียด600มคก.

ต้นเหตุทำไฟป่าปะทุเต็มดอย

สธ.เตือนมลพิษเกินมาตรฐาน

สูงกว่าเกณฑ์อนามัยโลก32เท่า

กรมควบคุมมลพิษรายงานภาพรวมค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กทั่วประเทศ เกินค่ามาตรฐาน 21 จังหวัด โดยภาคเหนือเผชิญค่า PM2.5พุ่งสูงชนิดสาหัส 28 พื้นที่ หนักสุดที่ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย เชียงรายวัดได้ 590 มคก. รองลงมาเป็นภาคอีสานสูงสุดที่อ.บึงกาฬ จ.บึงกาฬ วัดได้ 277 มคก. เตือนภาคเหนือตอนบนเฝ้าระวังต่อเนื่องระหว่าง 27 มีค.-2 เมย. โดยเฉพาะจว.ติดประเทศเพื่อนบ้าน สธ.ห่วง PM2.5 เชียงรายสูงกว่ามาตรฐานอนามัยโลก 32 เท่า

เมื่อวันที่ 26มีนาคม2566 ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่ทั่วประเทศประจำวันว่า คุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีมากถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอนหรือPM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง พบค่าฝุ่นระหว่าง 10-590 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน 21จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.บึงกาฬ จ.หนองคาย จ.เลย จ.นครพนม จ.มุกดาหารและจ.อุบลราชธานี


สำหรับภาคเหนือ พบเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 50-590 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐาน 28 พื้นที่ สูงสุดที่ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 590 มคก./ลบ.ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 6 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 33-277มคก./ลบ.ม.สูงสุดที่ ต.บึงกาฬ อ.บึงกาฬ จ.บึงกาฬ 277 มคก./ลบ.ม.ส่วนภาคกลางและตะวันตก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 18-59 มคก./ลบ.ม.ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 10-30มคก./ลบ.ม.ภาคใต้ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 13-21 มคก./ลบ.ม.

ขณะที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ.ร่วมกับกทม.ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 16-76 มคก./ลบ.ม.อย่างไรก็ตาม ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวเองถ้าจำเป็น

นอกจากนี้ กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม-2 เมษายน ดังนี้ วันที่ 27 มีนาคมเป็นต้นไปสถานการณ์ในพื้นที่กทม.และปริมณฑลมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากสภาพอากาศเปิดมากขึ้น เพดานการลอยตัวอากาศที่สูงขึ้น ประกอบกับลมทางใต้ที่กำลังแรงช่วยพัดฝุ่นออกจากพื้นที่ ส่วนพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มควรเฝ้าระวังในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านระหว่างวันที่ 27 มีนาคม-2 เมษายน

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงาน สภาพอากาศทั่วไปในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยเฉพาะตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา และด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย อ.เชียงแสน อ.แม่จัน มีฝุ่นละอองหนามากเป็นประวัติการณ์ โดยมีลักษณะเหมือนหมอกในฤดูฝน แต่เป็นฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งกรมควบคุมมลพิษรายงานผลการตรวจวัดค่าฝุ่นใน ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ติดกับจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา มีปริมาณ PM 2.5 สูงถึง 459 มคก./ลบ.ม. และค่า PM 10 และอื่นๆ พบดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index) มีสูงถึง 569 AQI เช่นเดียวกับด้านอ.เชียงของ ติดกับแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว พบค่า PM 2.5 สูงถึง 219 มคก./ลบ.ม. และเขต อ.เมืองเชียงราย วัดค่าได้ 211 มคก./ลบ.ม.ถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพติดต่อกันมาหลายวัน

อย่างไรก็ตาม การตรวจวัดคุณภาพอากาศจากเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าภาคสนามแต่ละพื้นที่พบค่า PM 2.5 ที่มากกว่านั้นอีกมาก โดยค่าเฉลี่ยของปริมาณฝุ่นตั้งแต่พื้นที่ชั้นในของศูนย์ไฟป่าเชียงราย-144 ไปถึงชาวแดน ทั้งที่ภูชี้ฟ้า อ.เทิง อ.เชียงของ ดอยแม่สลอง อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวงอ.แม่สาย จนไปถึงป่าไม้ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พบค่า PM 2.5 บางจุดสูงถึง 500-900 มคก./ลบ.ม. มีอัตราเฉลี่ยจากศูนย์ดับไฟป่าประมาณ 27 แห่งตลอดแนวชายแดนพบค่าเฉลี่ย PM 2.5 อยู่ระหว่าง 200-900 มคก./ลบ.ม.

ขณะที่การเผาป่าในประเทศเพื่อนบ้านยังมีต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ของไทยต้องเฝ้าระวังตลอดแนวไม่ให้ลุกลามเข้ามาฝั่งไทย แต่ผลกระทบที่ไทยได้รับคือ เกิดฝุ่นปลิวไปทั่วบริเวณ ขณะที่พื้นที่ในประเทศมีไฟป่าลุกไหม้ขึ้นหลายจุด โดยเฉพาะบนดอยปุยและอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก อ.เมืองเชียงราย โดยคืนวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เกิดไฟไหม้อย่างหนักบนดอยหมู่บ้านแม่สาด ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย โดยลุกไหม้เต็มขุนเขาใกล้หมู่บ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าและชาวบ้านเข้าสกัดไฟไม่ให้ลามเข้าที่อยู่อาศัยตลอดทั้งคืน

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ออกประกาศห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดเป็นเวลา 90 วัน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 15 เมษายน โดยแจ้งให้หน่วยงานภาคส่วนได้เข้มงวดและหากพบการฝ่าฝืนต้องดำเนินคดี ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีลักลอบเผาในเขตพื้นที่ป่า โทษจำคุก 1 ปี-30 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-3,000,000 บาท

ด้านนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)กล่าวถึงการเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่วันนี้ (26 มีนาคม) พบค่าฝุ่น PM 2.5 สูงถึง 480 มคก./ลบ.ม.ในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของประเทศไทย 9 เท่า และสูงกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก 32 เท่า นอกจากนี้ ยังมีอีก 11 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน บึงกาฬ หนองคาย นครพนม มีค่าฝุ่นอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ

“ซึ่งสัปดาห์นี้พื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีแนวโน้มการสะสมฝุ่น PM2.5 เนื่องจากลมนิ่ง รวมทั้งการเผาทั้งในประเทศและจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งพบจุดความร้อนสะสมเดือนมีนาคมสูงถึง 25,209 จุด ทำให้ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ” นพ.สุวรรณชัย กล่าวและว่า

ระดับค่าฝุ่นละอองดังกล่าว นอกจากจะส่งผลให้มีอาการแสบตา คันตา ตาแดง ระคายเคืองผิวหนัง ไอ หายใจลำบาก แน่นหน้าอกแล้ว ผู้ที่ป่วยโรคหัวใจและระบบทางเดินหายใจ จะมีอาการรุนแรงมากขึ้น และหากได้รับในปริมาณมากในระยะยาว ฝุ่น PM2.5 จะทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย เข้าไปทำลายระบบต่างๆ ในเซลล์ของปอด ทำให้เกิดโรคทั้งระบบหัวใจและหลอดเลือดและมะเร็งในระยะยาว

อธิบดีกรมอนามัยกล่าวอีกว่า ข้อมูลจากการเฝ้าระวังอาการตัวเองของประชาชน ผ่านระบบ 4Health PM 2.5 ในภาคเหนือ ช่วงเดือนมีนาคมพบ ประชาชนมีอาการเกี่ยวกับการรับสัมผัสฝุ่นถึงร้อยละ 73.2 ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 5-14 ปีและผู้สูงอายุ จึงขอให้ประชาชนเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพตนเอง โดยลดระยะเวลาหรืองดออกนอกอาคารโดยไม่จำเป็น ถ้าต้องออกไปควรใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น งดออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่ป่วยโรคทางเดินหายใจและโรคหัวใจ 3.อยู่ในบ้าน ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด หากทำห้องปลอดฝุ่นได้ ให้อยู่ในห้องปลอดฝุ่นและควรงดการเผาในชุมชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สภาพอากาศวันนี้! กรมอุตุฯเตือนฝนถล่มทั่วไทย เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก สภาพอากาศวันนี้! กรมอุตุฯเตือนฝนถล่มทั่วไทย เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
  • สภาพอากาศวันนี้! กรมอุตุฯเตือนฝนถล่มหนัก 45 จังหวัด กทม.บ่ายถึงค่ำมาแน่! สภาพอากาศวันนี้! กรมอุตุฯเตือนฝนถล่มหนัก 45 จังหวัด กทม.บ่ายถึงค่ำมาแน่!
  • รับถึงที่...ดีต่อใจ!‘ทรู’คิกออฟ‘ทิ้งถูกที่ ดีต่อใจ สัญจร’ออนทัวร์รับ e-Waste ถึงถิ่นกรุงเก่า-กทม. รับถึงที่...ดีต่อใจ!‘ทรู’คิกออฟ‘ทิ้งถูกที่ ดีต่อใจ สัญจร’ออนทัวร์รับ e-Waste ถึงถิ่นกรุงเก่า-กทม.
  • ทสจ.กาฬสินธุ์-รณรงค์ ‘วันสิ่งแวดล้อมโลก’ ลดขยะ-ลดมลพิษ-ลดโลกร้อน ทสจ.กาฬสินธุ์-รณรงค์ ‘วันสิ่งแวดล้อมโลก’ ลดขยะ-ลดมลพิษ-ลดโลกร้อน
  • วันนี้ทั่วไทยยังฉ่ำ! กรมอุตุฯเตือนมรสุมฝนถล่ม กทม.โดนด้วย วันนี้ทั่วไทยยังฉ่ำ! กรมอุตุฯเตือนมรสุมฝนถล่ม กทม.โดนด้วย
  • กรมอุทยานฯ เรียกค่าเสียหาย 12 ล้าน เรือขนส่งเมียนมา เกยตื้นแนวปะการัง กรมอุทยานฯ เรียกค่าเสียหาย 12 ล้าน เรือขนส่งเมียนมา เกยตื้นแนวปะการัง
  •  

Breaking News

ฮูย่าจบแล้ว! 'มนุษย์กบ' รุ่นที่58 จบเพียง25นายจาก68นาย พร้อมปกป้องประเทศชาติ

นักเรียนซ้อมวิ่ง! นายอำเภอบ้านกรวดเช็กหลุมหลบภัย รับมือเหตุปะทะ

'เจ้าเงาะป่า'ทำถึง! สีสันขบวนแห่งานบุญบั้งไฟ 'อบต.ตาโกน' ชาวบ้านตาลุกวาวแห่ส่องเลขธูป

ชาวบ้านเชื่อปอบเฮี้ยนไม่เลิก! สิงเด็กสาวหลายราย หวัง'หมอปลา'มาช่วยพิสูจน์

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved