ประมงจังหวัดตรังเตือนชาวประมงให้ปฏิบัติตามมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน ฝั่งทะเลอันดามัน เผยการปิดอ่าวช่วงฤดูปลาวางไข่ทำให้ปริมาณสัตว์มีเพิ่มมากขึ้นทุกปี หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับตั้งแต่ 5 พันบาทถึง 30 ล้านบาทแล้วแต่ชนิดของเครื่องมือและขนาดของเรือประมง
วันที่ 29 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายณัฐรัฐ พรเดชอนันต์ ประมงจังหวัดตรัง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมงได้ประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน ในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่และตรัง เพื่อให้สัตว์น้ำได้แพร่ขยายพันธุ์และฟื้นฟูสัตว์น้ำ ให้เกิดความสมดุลทางธรรมชาติและรักษาระบบนิเวศไว้ให้ยั่งยืน ตลอดจนเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่น ให้รู้จักการอนุรักษ์และหวงแหนทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีใช้อย่างยั่งยืน และรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์ สร้างขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานเพื่อปกป้องทรัพยากรและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วนในการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ
กรมประมงได้ปรับปรุงมาตรการสำหรับเครื่องมือที่ใช้ในการทำประมงในพื้นที่อ่าวอันดามันและอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 70 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2560 ออกประกาศกรมประมงลง วันที่ 22 มีนาคม 2561 เรื่องกำหนดพื้นที่ระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในที่จับสัตว์น้ำบางส่วน โดยกำหนดให้มีการปิดพื้นที่บางส่วนเท่านั้น ตั้งแต่จังหวัด ภูเก็ต พังงา กระบี่ และจังหวัดตรัง เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในพื้นที่ 4 จังหวัด โดยกำหนดห้วงระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 1เมษายน ถึง 30มิถุนายนของทุกปี รวมเนื้อที่กว่า 5,000 ตารางกิโลเมตร ห้ามทำการประมงด้วยเครื่องมือประมงประสิทธิภาพสูงเป็นบางชนิด และขนาดสำหรับเครื่องมือประมงเพื่อการยังชีพและเครื่องมือประมงประสิทธิภาพต่ำ ยังคงสามารถทำการประมงได้ เช่น อวนลากแผ่นตะเฆ่ ความยาวไม่เกิน 14 เมตร ทำได้ในเวลากลางคืน และนอกเขตทะเลชายฝั่ง อวนล้อมจับปลากะตักเวลากลางวันและเครื่องมือประมงพื้นบ้านประเภทต่างๆ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับชาวประมงน้อยที่สุดในการประกอบอาชีพ
นายณัฐรัฐ พรเดชอนันต์ ประมงจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการเก็บตัวอย่างของกรมประมงทะเล ซึ่งทุกปีจะต้องมีการเก็บข้อมูลเรื่องประชากรสัตว์น้ำในช่วงปิดอ่าว ซึ่งจะต้องทำการศึกษาและวิจัย ทุกปีที่ผ่านมาประชากรของสัตว์น้ำที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นทุกปี และกรมประมงเองก็ใช้ค่าข้อมูลของทางวิชาการในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำที่จำเป็น จัดสรรให้กับเรือประมงพาณิชย์ในการจับสัตว์น้ำในใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ซึ่งได้ประโยชน์จากมาตรการนี้ ในเขตประกาศปิดอ่าวเรือประมงพาณิชย์ไม่สามารถเข้าไปทำการประมงในเขตได้อยู่แล้ว ซึ่งจะต้องดูในท้ายประกาศนี้ ซึ่งในระบบดาวเทียมจะมีกำหนดระยะของพื้นที่ของจุดเขตห้ามทำการประมงในช่วงปิดอ่าว อันนี้จะต้องศึกษาในรายละเอียดในข้อมูลนี้ เพราะว่าจะมีจุดและตำแหน่งแตกต่างกันในแต่ละจังหวัด แต่เขตที่ประกาศปิดอ่าวยังไงก็เป็นเขตไม่ใช่เขตทะเลชายฝั่ง เครื่องมือประมงพื้นบ้านยังทำได้ตามปกติ ผู้ที่ฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมายกรมประมง จะมีโทษปรับตั้งแต่ 5 พันบาท ถึง 30 ล้านบาท แล้วแต่ชนิดของเครื่องมือและขนาดของเรือประมง จึงขอให้ชาวประมงใช้เครื่องมือตามที่กำหนดเพื่อป้องกันการถูกจับกุม - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี