“สันธนะโผล่ยัน เงิน6ล้านไม่ใช่เงินของสารวัตรซัว แต่เป็นเงินนายทุนอ่างรายใหม่ มอบให้เป็นใบเบิกทาง พร้อมท้าชูวิทย์วางเดิมพัน100ล้านหากแพ้คดี”
วันที่ 29 มีนาคม 2566 นายสันธนะ ประยูรรัตน์ หรือ”รองต่อ”อดีตนายตำรวจสันติบาล เดินทางมาที่ อาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อติดต่อขอเข้าพบ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีพ.ต.ท.วสวัตติ์ หรือ สารวัตรซัว อดีตสารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการที่พยายามจ่ายเงินเพื่อปกปิดคดี ร่วมทั้งจะแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับเงินสองถุงที่มีบุคคลนำไปมอบให้กับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักแฉชื่อดังอีกด้วย
นายสันธนะ กล่าวว่า ตนทราบมาว่า เงินที่ถูกนำไปมอบให้กับนายชูวิทย์ นั้นไม่ใช่เงินของสารวัตรซัวตามที่เป็นข่าว แต่เป็นเงินของนาย อ. เป็นผู้นำเงินมามอบให้ชูวิทย์นำไปทำบุญ ซึ่งนาย อ. นั้นเชื่อมโยงถึงกลุ่มทุนสถานบริการอาบนวด ย่านรัชดา เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนายชูวิทย์ โดยตามภาพที่เห็นมีนายพล อดีตนายตำรวจ ตามที่เคยมีข่าวทางสื่อออกไปแล้ว เป็นภาพเก่าตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2565 ซึ่งขณะนั้นตอนที่มีการนำเงินไปให้นายชูวิทย์ไม่ได้อยู่รับ ก่อนจะมีการนำมามอบให้ภายหลัง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ส่วนเหตุผลที่นายชูวิทย์ จะสมอ้างว่าเป็นเงินของสารวัตรนั้น ตนไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด แต่เชื่อว่าอาจเป็นการปกปิดที่มาของเงิน และของยืนยันว่ารองเลขา ฯปปง.ที่ถูกนายอัจฉริยะ กล่าวหาว่า เป็นผู้เกี่ยวข้องนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
นายสันธนะ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ตนก็จะมาติดตามความคืบหน้าในคดีที่เคยแจ้งเบาะแสเพื่อเอาผิดสารวัตรซัวที่พบความเชื่อมโยงเว็บพนันออนไลน์ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีคนสนิทของสารวัตรซัว แชทมาคุยกับตน เพื่อขอเคลียร์ไม่ให้เปิดโปงการทำธุรกิจเว็บพนันด้วย
นายสันธนะ กล่าวอีกด้วยว่า ส่วนประเด็นที่ศาลอาญารับฟ้อง คดีหมิ่ประมาทนายชูวิทย์ กรณีกล่าวหาโรงแรมเดวิสเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด โดยนัดตรวจหลักฐานในวันที่ 15 พฤษภาคม นี้ว่า ตนไม่กังวลและถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ตัวเองจะได้ตั้งตัวสู้คดี เนื่องจากพนักงานสอบสวนที่ทำคดี มีการรวบรวมพยานหลักฐานเท็จมากล่าวหาตัวเอง โดยยืนยันว่ามีหลักฐานที่จะใช้ยืนยันในชั้นศาล เป็นคลิปจากมือถือ จำนวน 3 เครื่อง ซึ่งสามารถระบุภาพ เสียง และเวลาเกิดเหตุได้อย่างชัดเจน ตนขอท้านายชูวิทย์ มาเดิมพัน 100 ล้าน หากว่าตัวเองชนะคดีในชั้นศาล ส่วนตัวนายทนายอนันตชัย ไชยเดช ก็จะต้องคืนตั๋วทนายความทันที และถ้าตนแพ้คดีนี้ ก็จะขอหายไปจากวงการทันทีด้วย
หลังจากนั้นก็มีพ.ต.อ.หญิง จุฬาลักษณ์ วรรณา ผกก.ศฝร.บชก.เป็นผู้มารับมอบหลักฐาน ก่อนนำเสนอไปยังพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.พิจารณาต่อไป