ประธานหอการค้ากาญจนบุรีฝากถึง 5 เสือ "ส.ส.กาญจน์" และ "รัฐบาลชุดใหม่" เร่งผลักดันแก้ไขสิทธิในที่ดินทำกิน ท่องเที่ยวและการค้านชายแดน สร้างวงแหวนรอบเมืองรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต
นายวิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวถึงการเลือกตั้ง ส.ส.หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดรับสมัคร ส.ส.ระบบแบ่งเขตเลือกตั้งขึ้นระหว่างวันที่ 3-7 เม.ย.66 ส่วน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อรับสมัครระหว่างวันที่ 4-7 เม.ย.และวันที่ 14 พ.ค.2566 เป็นวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งว่า ถามว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีปัญหาอะไรบ้างเกี่ยวกับเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีนั้น เรื่องแรกเลยคือการจัดการสิทธิเรื่องที่ดินทำกินภายใต้พระราชกฤษฎีกา 2481 ที่ถูกร่างและประกาศใช้มาตั้งแต่สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จุดประสงค์ของพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อต้องการป่าไผ่ในการนำเยื่อไผ่มาป้อนให้กับโรงงานกระดาษของจังหวัดกาญจนบุรี นับตั้งแต่วันนั้นมาถึงวันนี้เป็นเวลายาวนานร่วม 80 ปีแล้ว
จึงคิดว่าพระราชกฤษฎีกา 2481 น่าจะได้รับการแก้ไขและจะต้องเร่งรัดในการพิสูจน์สิทธิ์ให้แก่ผู้ครอบครองพื้นที่ในที่ดินที่เจ้าของครอบครองมาก่อนที่จะประกาศบังคับใช้พระราชกฤษฎีกา 2481 ดังนั้นจึงอยากให้คณะกรรมการที่รับผิดชอบเร่งรัดให้เร็วขึ้นพื้นที่บริเวณไหนที่ราษฎรบุกรุกก็ควรจะแก้ไขด้วยการจัดสรรให้ผู้บุกรุกไปเช่าโดยตรงกับกรมธนารักษ์ให้ถูกต้อง เพราะหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี ต้องการให้สิทธิในที่ดินทำกินในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเกิดความชัดเจนไม่เช่นนั้นมันก็จะคลุมเครืออยู่อย่างนี้ต่อไป และนอกจากพระราชกฤษฎีกา 2481 แล้วยังมีพระราชกำหนดประกาศให้พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นเขตอุทยานแห่งชาติรวมทั้งเขตป่าไม้ ที่ทับซ้อนพื้นที่ทำกินของราษฎรอีกจำนวนหลายฉบับ มันจึงทำให้พื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรีเป็นพื้นที่ที่ไม่มีความแน่นอน หนังสือรับรองสิทธิการทำประโยชน์อย่างเช่นเอกสาร น.ส.3 บางฉบับ ที่มีอยู่บางจุดบางอำเภอยังมีความเสี่ยงที่อาจจะต้องถูกเพิกถอนและที่ดินที่ราษฎรถือครองเอกสาร สค.1 ที่รอการพิสูจน์มานานหลายสิบปี
นายวิเชียร กล่าวต่อว่า หากพื้นที่ได้รับการแก้ไขเรื่องสิทธิในที่ดินทำกินนี้ให้มีความชัดเจน เชื่อว่าคนจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งธุรกิจของจังหวัดกาญจนบุรีหรือแม้กระทั่งนักธุรกิจต่างๆจะกล้าที่จะเข้ามาลงทุนทั้งด้านการท่องเที่ยว กล้าที่จะเข้ามาลงทุนด้านอุตสาหกรรมแปรรูปด้านการเกษตรที่เป็นจุดเด่นของจังหวัดกาญจนบุรีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเรื่องที่ดินทำกินนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อันดับหนึ่งของจังหวัด
หากรัฐบาลชุดใหม่ให้ความสำคัญเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินให้มีความชัดเจน จะทำให้จังหวัดกาญจนบุรีมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งทางด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งจะได้รู้ขอบเขตการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกษตรแปรรูปและอื่นๆก็จะเจริญเติบโตไปพร้อมๆกันในทุกมิติ
เรื่องที่สองคืออยากให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวอยู่ในอันดับต้นๆของประเทศ ดังนั้นถนนหนทางหรือการอำนวยความสะดวกด้านสาธารณูปโภคต่างๆของจังหวัดจะต้องได้รับการลงทุนจากรัฐบาลเพื่อให้การสัญจรไปมาสะดวก และมีความปลอดภัย นักท่องเที่ยวที่มาสามารถเดินทางได้โดยที่รถไม่ติดมากนัก เพราะไม่อยากให้จังหวัดกาญจนบุรีเป็นเมืองแห่งรถติดเฉพาะวันศุกร์ วันเสาร์และวันอาทิตย์ ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามานับสิบล้านคน ดังนั้นรัฐบาลชุดใหม่ควรจะหันมาดูแล เพราะเป็นรายได้ด้านเซอร์วิสหรือบริการที่สำคัญอันดับต้นๆของประเทศ
ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวอีกว่า ถ้ารัฐบาลมุ่งเน้นให้จังหวัดกาญจนบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นจังหวัดแห่งการเกษตรและเกษตรท่องเที่ยว รวมทั้งเกษตรประณีตและเกษตรแปรรูป หากทำได้จะเป็นรากฐานในด้านการท่องเที่ยว ซึ่งทั้งหมดเป็นมุมมองของหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี
เรื่องที่สามที่อยากจะฝากไปถึงรัฐบาลชุดใหม่ คือเรื่องการค้าด้านชายแดน ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีมีจุดผ่อนปรนชั่วคราวทางการค้านำเข้าและส่งออก รวมทั้งการท่องงเที่ยวที่บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี และจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยเฉพาะจุดผ่านแดนถาวร หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรีนั้น ถึงแม้ว่าจะประกาศเป็นจุดผ่านแดนถาวรไปแล้ว แต่ถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับความสะดวกในเรื่องของการค้านผ่านชายแดนมากนัก
แต่ถ้าหากรัฐบาลได้เจรจากับประเทศเพื่อนบ้านจนทำให้สามารถเปิดด่านถาวรทั้งสองด่านได้และสามารถนำสินค้าส่งเข้าออกพร้อมกันทั้งสองประเทศจะถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวเสริมเศรษฐกิจด้านตะวันตก โดยทั้งสองด่านส่วนใหญ่เป็นช่องทางส่งออกมากกว่าการนำเข้า ซึ่งจะเป็นการนำรายได้เข้าสู่ประเทศได้เป็นจำนวนมหาศาล
ดังนั้น จึงอยากจะฝากไปถึงรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศในเร็วนี้ใน 3 เรื่องด้วยกัน คือเรื่องที่หนึ่ง เรื่องแก้ไขสิทธิในที่ดินทำกินของราษฎรให้มีความชัดเจน เรื่องที่สองเรื่องผลักดันด้านการท่องเที่ยวให้มีความสะดวกและปลอดภัยมากกว่านี้ และเรื่องที่สามคือเรื่องผลักดันการค้าทางด้านชายแดน
"หอการค้าจังหวัดกาญจนบุรีจึงขอฝากไปถึงรัฐบาลชุดใหม่ เข้ามาสนใจผลักดันการลงทุนกันอย่างจริงจัง หากสำเร็จจะทำให้จังหวัดกาญจนบุรีไม่ใช่เมืองต้นซอยอีกต่อไป ถามว่ามีความคาดหวังกับรัฐบาลชุดใหม่มากน้อยเพียงใดนั้น เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับ ส.ส.แต่ละท่านที่ได้รับเลือกจากประชาชนชาวกาญจนบุรีทั้ง 5 คน ว่า จะผลักดันเรื่องต่างๆเพื่อชาวกาญจนบุรีมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ จึงอยากจะฝากไปถึงผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้าไปเป็นตัวแทนพี่น้องชาวกาญจนบุรีในสภาทั้ง 5 เขตด้วย" นายวิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี กล่าว
ด้านนายสรรเพชญ ศลิษฏ์อรรถกร กรรมการผู้จัดการ บริษัทในเครือยงกรุ๊ป กล่าวว่า ส่วนตัวอยากจะฝากไปถึงรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศเทศใน 3 เรื่องสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี คือ 1. เรื่องที่ดินที่ติดปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ์ ทำให้การลงทุนไม่ค่อยมีคนกล้าลงทุนเพราะความไม่แน่นอนเรื่องสิทธิของที่ดิน
2 เรื่องแก้ไขปัญหาด้านการจราจร โดยการวางแผนทำถนนวงแหวนรอบเมืองอีกชั้นหนึ่ง เพราะใน อีก 3 -5 ปี หากถนนมอเตอร์เวย์เปิดใช้อย่างเป็นทางการแล้วจะมีนักท่องเที่ยวจาก กทม.รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศและทั่วโลก เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 50% จะทำให้จังหวัดกาญจนบุรีมีนักท่องเที่ยวเหมือนกับพัทยา หรือเขาใหญ่ เพราะการเดินทางสะดวกมากขึ้น และต้องเตรียมการจราจรเอาไว้รองรับเพิ่มเติม เนื่องจากเส้นทางที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นไม่เพียงพอ
และ 3.ขอให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งประสานกับประเทศเพื่อนบ้านในการเปิดด่านถาวร เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจการท่องเที่ยวตามชายแดนเพิ่มมากขึ้น โดยเชื่อว่าจังหวัดกาญจนบุรีจะเป็นเมืองผ่านที่สามารถเดินทางไปเที่ยวทะเล ใน จ.ทวาย ประเทศเมียนมาในระยะทางที่ใกล้ ผู้ประกอบการสามารถนำอาหารทะเลสดเข้ามาได้ง่าย และจะทำให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องเดินทางไกลอีกต่อไป เพราะสามารถมานั่งทานอาหารซีฟู้ดในจังหวัดกาญจนบุรี ได้เลย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี