จากลูกชาวนาสู่ปริญญาเอก ดร.มานพ เหมพลชม ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นครพนม เบอร์  2 พรรคไทยสร้างไทย พร้อมระเบิดพลังความเปลี่ยนแปลง

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป 2566 เป็นการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศไทยครั้งที่ 27 จะจัดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 หลังจากที่มีการยุบสภาผู้แทนราษฎรไทยชุดที่ 25 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา และได้การเปิดรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตทั่วประเทศ เมื่อวันจันทร์ที่ 3 เมษายน 2566 แน่นอนบรรยากาศเป็นไปด้วยความคักคัก โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ มีหัวหน้าพรรค ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคต่าง ๆ เดินทางไปให้กำลังใจเพื่อนร่วมพรรคขณะยื่นใบสมัคร และจับสลากหมายเลขประจำตัวผู้สมัครที่จะใช้รณรงค์ก่อนถึงวันเลือกตั้ง วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566

นครพนมเป็นจังหวัดชายแดนภาคอีสานตอนบน แบ่งเขตการปกครอง 12 อำเภอ 97 ตำบล 1,123 หมู่บ้าน ประชากรประมาณ 7 แสนคนเศษ แยกออกเป็น 4 เขตเลือกตั้ง โดยแต่ละเขตเลือกตั้งจะมี ส.ส.ได้เขตละ 1 คน พรรคการเมืองที่ครองใจประชาชนมายาวนาน ต้องยกให้พรรคความหวังใหม่ ที่มี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นหัวหน้าพรรค โดยเริ่มปักธงชัยตั้งแต่ปี 2526 กระทั่งควบรวมกับพรรคไทยรักไทย หลังถูกยุบก็เป็นพรรคพลังประชาชน เมื่อพรรคพลังประชาชนถูกยุบ กลายเป็นพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน ส.ส.นครพนมก็เหมือนผึ้งแตกรัง มีการย้ายไปอยู่พรรคอื่นหลายคน ที่อยู่เหนียวแน่นเป็นตังเมเพียง 2 คน คือ1.นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ 2.นางมนพร เจริญศรี

หลังปี 2562 การเมืองในจังหวัดนครพนม เริ่มมีความดุเดือดขึ้น เริ่มจากพรรคภูมิใจไทยเปิดเกมรุก นักการเมืองท้องถิ่นทยอยย้ายไปซบใต้ปีกพรรคภูมิใจไทยมากขึ้น ด้านพรรคเพื่อไทยก็มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ซึ่งขณะนั้นเป็น ส.ส.เขต 4 นครพนม ย้ายไปอยู่พรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พร้อมฟอร์มทีมผู้สมัคร ส.ส.นครพนมทั้ง 4 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายมานพ เหมพลชม เขต 2 ว่าที่ รต.ถิรวัฒน์ จำปาศรี เขต 3 นายพงษ์เทพ โรจน์วิรัตน์ และ เขต 4 นายชวลิต วิชยสุทธิ์

ทั้งนี้ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ถือเป็นหัวหน้าทีมพรรคไทยสร้างไทย พื้นที่จังหวัดนครพนม ได้เอ็กซเรย์เลือกตัวว่าที่ผู้สมัครแต่ละเขตอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยเขต 1 ได้ตัวนายมานพ เหมพลชม ดีกรีจบปริญญาเอกด้านรัฐประศาสนศาสตร์ เป็นหน่อเนื้อลูกชาวนาเกิดที่บ้านดอนแดง ต.นาทม อ.บ้านแพง (ในขณะนั้น) จ.นครพนม จากเด็กบ้านนอกที่เติบโตมาในถิ่นกันดาร จากความไม่พร้อมแต่ไม่ยอมจำนน ดั้นด้นไขว่คว้า เดินสู่เป้าหมายที่ปรารถนาตั้งใจมุมานะเรียนหนังสือจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก จึงถูกคว้าตัวมาร่วมแก้ปัญหาระดับชาติ

ดร.มานพ เหมพลชม จบปริญญาตรีด้านกฎหมาย จึงเป็นทนายความที่ต่อสู้เพื่อสังคมมาโดยตลอด เริ่มต้นชีวิตการเมืองปี 2538 เป็น สจ.เขตอำเภอบ้านแพงและอำเภอนาทมรุ่นเดียวกับนายศุภชัย โพธิ์สุ,ดร.มนพร เจริญศรี และ ดร.สมชอบ นิติพจน์ นอกจากนี้ยังเป็นเลขานุการนายก อบจ.นครพนม,รองนายก อบจ.นครพนม,ที่ปรึกษารัฐมนตรี และ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครพนม

ซึ่ง ดร.มานพ เหมพลชม ได้กล่าวว่าจากที่เคยอยู่เบื้องหลังความสำเร็จนักการเมืองหลายคน วันนี้พร้อมก้าวสู่การทำงานระดับชาติ ด้วยประสบการณ์ด้านการเมืองมาเกือบ 30 ปี “พร้อมแล้วครับพร้อมระเบิดพลังของการเปลี่ยนแปลง ด้วยแรงปรารถนาที่จะทำให้พี่น้องประชาชน ไม่ใช่ทำเอาเพื่อตัวเองและครอบครัว เรื่องของอนาคตเราต้องกำหนดเอง เลือกคนอื่นเป็นผู้แทน เขาก็ไปทำเพื่อเขาเอง เพื่อครอบครัวของเขาเอง เปลี่ยนไปเลือกผู้แทนที่จะทำให้-ไม่ทำเอา เลือกผู้แทนไปออกกฎหมาย บำนาญประชาชน เพื่อประชาชนเพื่อตัวของท่านเองฯ”

โดย ดร.มานพ เหมพลชม ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคไทยสร้างไทย ได้หมายเลข 2 ได้ออกหาเสียงกับพี่น้องในพื้นที่เขต 1 ประกอบด้วย อ.บ้านแพง อ.นาทม อ.ศรีสงคราม และ อ.นาหว้า ด้วยอุปนิสัยที่อ่อนน้อมมาแต่เดิม ทำให้ได้เสียงตอบรับจากประชาชนดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะชาวบ้านที่เบื่อหน่ายการเมืองที่ทำเพื่อตนเองและพวกพ้อง - 003